เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. นายกรัฐมนตรี มาร์ก รุตเทอ ผู้นำเนเธอร์แลนด์ ประกาศก่อนเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรปที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมว่า “ฮังการีไม่มีที่ยืนใน EU แล้ว” หลังทำการผ่านกฎหมายแบนการสอนเนื้อหาเกี่ยวกับผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) ในโรงเรียน
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา รัฐสภาฮังการีได้ผ่านร่างแก้ไขกฎหมายที่ระบุถึงการห้ามนำเสนอเนื้อหาที่ส่งเสริมการรักเพศเดียวกัน การแปลงเพศ หรือการเบี่ยงเบนทางเพศ ให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม
กฎหมายดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในนโยบายภายใต้รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี วิกตอร์ ออร์บาน ผู้นำฮังการีสายอนุรักษ์นิยมแบบสุดโต่ง กระตุ้นให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนและพรรคฝ่ายค้านอย่างเผ็ดร้อนว่า ออร์บานกำลังดำเนินนโยบายในเชิง "สร้างความเกลียดชัง" และ "เป็นการเมืองแบบกีดกันเลือกปฏิบัติ" โดยในวันผ่านกฎหมายเอง ก็มีประชาชนออกมาชุมนุมแสดงความไม่พอใจที่หน้าอาคารรัฐสภาในกรุงบูดาเปสต์กว่าหลายพันคน
สำหรับผม ฮังการีไม่มีที่ยืนใน EU อีกต่อไปแล้ว
รุตเทอ ผู้นำเนเธอร์แลนด์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนร่วมประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป ซึ่งผู้นำฮังการีอย่างออร์บานจะเข้าร่วมประชุมด้วย “แต่น่าเสียดายที่ในระบบที่เรามีนั้น ผมไม่สามารถทำอะไรได้เพียงลำพัง ทว่าหากชาติสมาชิกอื่นๆ อีก 26 ชาติบอกว่า ‘คุณต้องไป’ เรื่องนั้นจะเกิดขึ้นอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยในระหว่างดำเนินการ คุณก็ได้แต่หวังให้พวกเขายอมปรับตัว” รุตเทอกล่าวเสริม
เออร์ซูลา วอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุว่า "กฎหมายของฮังการีนั้นเป็นความน่าอับอาย" พร้อมกับเขียนจดหมายถึงผู้นำฮังการี ต่อต้านกฎหมายดังกล่าว ระบุว่า "มันเป็นการเลือกปฏิบัติต่อผู้คนด้วยการพิจารณาจากรสนิยมทางเพศของพวกเขาอย่างชัดเจน" พร้อมประกาศว่า EU จะดำเนินการทางกฎหมายต่อเรื่องนี้
ทั้งนี้ ผู้นำชาติสมาชิก EU ที่ร่วมลงนามในแถลงการณ์ต่อต้านกฎหมายดังกล่าว อาทิ นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี และเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส
ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจของเหล่าชาติสมาชิก EU ด้านออร์บานยังคงยืนยันอย่างหนักแน่นว่า กฎหมายใหม่ของฮังการีไม่ได้ต่อต้านชาวเกย์ “มันไม่ได้เกี่ยวกับคนรักเพศเดียวกัน แต่มันเกี่ยวกับเด็กและพ่อแม่ ผมเป็นนักสู้เพื่อสิทธิ ผมเป็นนักสู้เพื่อเสรีภาพในรัฐบาลคอมมิวนิสต์ ตอนนั้นเหล่าคนรักเพศเดียวกันถูกลงโทษ และผมก็ต่อสู้เพื่อเสรีภาพกับสิทธิของพวกเขา ดังนั้น ผมจึงกำลังปกป้องสิทธิของพวกเขาอยู่ แต่กฎหมายนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้น มันเป็นเรื่องของสิทธิเด็กและพ่อแม่”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการยกเลิกกฎหมายดังกล่าวหรือไม่ ผู้นำฮังการีตอบว่า "กฎหมายถูกประกาศบังคับใช้แล้ว มันเป็นที่สิ้นสุดแล้ว" พร้อมกล่าวตอบโต้เหล่าผู้นำอียูรวมถึงคนที่ออกมาคัดค้านกฎหมายฉบับนี้ว่า "ไปอ่านให้จบก่อน แล้วค่อยมาวิจารณ์ทีหลังจะดีกว่า"