ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี ห่วงน้ำท่วมภาคใต้ สั่งเร่งช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา ยืนยันรัฐบาลจะดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด ขณะปภ.เผยล่าสุดกระทบกว่า 5 หมื่นครัวเรือน

ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบปัญหาอุทกภัย โดยได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย กองทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือประชาชน ทั้งในส่วนของการขนย้าย อพยพ เร่งระบายน้ำ การมอบสิ่งของเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน รวมถึงจัดให้มีการประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนได้รับทราบสถานการณ์อุทกภัยอย่างต่อเนื่อง 

ไตรศุลี กล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) รายงานว่า อุทกภัยครั้งนี้กระทบประชาชนใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย สงขลา ยะลา นราธิวาส และปัตตานี รวม 31 อำเภอ 171 ตำบล 908 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 51,078 ครัวเรือน โดยนายกรัฐมนตรี กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้การช่วยเหลือ ซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน เตรียมความพร้อมสำรวจความเสียหาย เพื่อฟื้นฟูเยียวยาผลกระทบตามเกณฑ์ที่กระทรวงการคลัง กำหนด

"นายกฯ ฝากให้กำลังใจประชาชนที่กำลังเผชิญกับอุทกภัยในขณะนี้ โดยขอให้ผ่านสถานการณ์ไปได้โดยเร็ว ยืนยันรัฐบาลจะดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด พร้อมกันนี้ ยังขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง กองทัพ รวมทั้งอาสาสมัคร ที่ช่วยกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเข้มแข็ง โดยขอให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและตนเอง" ไตรศุลี กล่าว


กระทบ 6 หมื่นครัวเรือน

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งสหพันธรัฐมาเลเซีย ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. 2564 – ปัจจุบัน (10 ม.ค. 2564 เวลา 06.00 น.) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันน้ำไหลหลาก และดินสไลด์ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ยะลา นราธิวาส และปัตตานี รวม 32 อำเภอ 185 ตำบล 996 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 58,497 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 3 ราย (ยะลา 2 ราย สงขลา 1 ราย) บาดเจ็บ 2 ราย (สงขลา) แยกเป็น

น้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก 4 จังหวัด รวม 29 อำเภอ 145 ตำบล 697 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 58,497 ครัวเรือน จุดอพยพ 14 จุด ผู้อพยพ 907 คน (นราธิวาส 4 จุด ยะลา 7 จุด สงขลา 3 จุด) ดังนี้

  • นราธิวาส น้ำไหลหลากในพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่อำเภอศรีสาคร อำเภอ บาเจาะ อำเภอระแงะ อำเภอสุไงปาดี อำเภอรือเสาะ อำเภอแว้ง อำเภอสุคิริน อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอจะแนะ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอยี่งอ และอำเภอตากใบ รวม 70 ตำบล 448 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 25,211 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  • ยะลา น้ำไหลหลากในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองยะลา อำเภอรามัน อำเภอเบตง อำเภอบันนังสตา และอำเภอกรงปีนัง รวม 21 ตำบล 60 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 15,229 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  • สงขลา น้ำไหลหลากในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอนาทวี และอำเภอเทพา รวม 19 ตำบล 58 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,549 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  • ปัตตานี น้ำไหลหลากในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปัตตานี อำเภอแม่ลาน อำเภอสายบุรี อำเภอหนองจิก อำเภอกะพ้อ อำเภอยะรัง อำเภอไม้แก่น และอำเภอทุ่งยางแดง รวม 35 ตำบล 131 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 10,508 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

ดินสไลด์ 2 จังหวัด ได้แก่ ยะลา และนราธิวาส รวม 3 อำเภอ 7 ตำบล 22 หมู่บ้าน ไม่มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ซึ่งสถานการณ์คลี่คลายแล้ว

ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยระดมเครื่องจักรกลและเครื่องสูบน้ำเข้าพื้นที่ เพื่อเร่งระบายน้ำและให้การดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจพื้นที่ และประเมินความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป