ไม่พบผลการค้นหา
มีรายงานระบุว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกลชั้นนำของรัสเซีย ถูกทำลายในการโจมตีด้วยโดรนของยูเครน  ทั้งนี้ มีการเผยแพร่ภาพที่โพสต์บนโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นถึงเครื่องบินตูโปเลฟ Tu-22 ที่กำลังมีไฟลุกไหม้ บริเวณฐานทัพอากาศโซลต์ซี-2 ทางตอนใต้ของนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

อย่างไรก็ดี ทางการรัสเซียกล่าวว่า โดรนลำหนึ่งถูกยิงตกด้วยอาวุธขนาดเล็ก แต่มันยังสามารถ "สร้างความเสียหาย" ให้กับเครื่องบินลำหนึ่งของรัสเซียได้ ทั้งนี้ ยูเครนยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ ต่อเหตุระเบิดในครั้งนี้

เครื่องบิน Tu-22 บินด้วยความเร็ว 2 เท่าของเสียง และมันถูกใช้ในปฏิบัติการอย่างแพร่หลายโดยรัสเซีย เพื่อเข้าโจมตีเมืองต่างๆ ในยูเครน ตลอดช่วงเวลาของการทำสงครามการรุกราน นับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2565

กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในแถลงการณ์ว่า การโจมตีโดย "อากาศยานไร้คนขับประเภทคอปเตอร์" เกิดขึ้นในวันเสาร์ (19 ส.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงมอสโก กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังระบุด้วยว่า สถานที่เกิดระเบิดดังกล่าวเป็น "สนามบินทหารในภูมิภาคโนฟโกรอด" ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานทัพอากาศโซลต์ซี-2

“อากาศยานไร้คนขับถูกตรวจพบ โดยด่านสังเกตการณ์ของสนามบิน และถูกยิงด้วยอาวุธขนาดเล็ก” กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุ “เครื่องบินลำหนึ่งได้รับความเสียหาย ไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุก่อการร้าย” นอกจากนี้ คำแถลงยังระบุด้วยว่าเหตุเพลิงไหม้ ที่เกิดขึ้นในลานจอดรถของสนามบิน ได้รับการเข้าระงับเพลิงลงอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ดี รูปภาพที่โพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Telegram เผยให้เห็นกลุ่มเพลิงขนาดใหญ่ ที่กำลังโหมไหม้เครื่องบินไอพ่น ซึ่งมีปลายแหลมด้านหน้าเครื่องบิน อันเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องบิน Tu-22

แม้ว่าการทำลายเครื่องบินเพียงลำเดียว จะส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อศักยภาพของกองบินที่แข็งแกร่ง 60 ลำในปัจจุบันของรัสเซีย แต่ปฏิบัติการดังกล่าวเน้นย้ำถึงความสามารถที่เพิ่มขึ้นของยูเครน ในการโจมตีเป้าหมายที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย 

ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ยูเครนได้เริ่มการใช้เครื่องบินไร้คนขับปีกคงที่หลายสิบลำ เพื่อเข้าโจมตีรัสเซีย ซึ่งมีระยะทางห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตรจากด่านหน้าของสงครามยูเครน นอกจากนี้ ฐานทัพอากาศโซลต์ซี-2 ตั้งอยู่ห่างจากชายแดนยูเครนออกไปประมาณ 650 กิโลเมตร

Tu-22 เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดความเร็วเหนือเสียงแบบปีกสวิงในยุคสงครามเย็น โดยมันมีชื่อรหัสว่า "แบ็คไฟร์" ที่ตั้งโดยองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) Tu-22 ยังถูกใช้อย่างแพร่หลายในการโจมตีเมืองต่างๆ ของยูเครน 

ทั้งนี้ Tu-22 รุ่นใหม่ อาทิ Tu-22M3 สามารถบินด้วยความเร็วถึง 2 มัค (2,300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และสามารถบรรทุกอาวุธได้มากถึง 24,000 กิโลกรัม ซึ่งรวมถึง "ระเบิดไม่นำวิถี" และขีปนาวุธนำวิถี Tu-22 นี้ยังถูกใช้ในความขัดแย้งในซีเรีย เชชเนีย และจอร์เจีย และล่าสุดในยูเครน


ที่มา:

https://www.bbc.com/news/world-europe-66573842?fbclid=IwAR22wB7SQ-vuPF5xDiIIaqx_RcXyGGTiN94zY7hmCR2Q5mr6lBoIRhAvH9w