เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2565 เฟซบุ๊ค วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหาร เผยแพร่ข้อความพร้อมรายงานข่าวว่า "ลด รับนักเรียนนายร้อยสภากลาโหม มีมติ ให้ ลดการผลิต นักเรียน นายร้อยของทุกเหล่าทัพ -รร.ช่างฝีมือทหาร -รร.นายสิบ" เพื่อตอบสนองภารกิจต่อต้านกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อความทั้งหมดระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กห. เป็นประธาน การประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 1/2565 ให้ความเห็นชอบ เรื่องสำคัญๆ ผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงการจัดส่วนราชการ กห. ครั้งที่ 1/2565 และพิจารณาร่างหลักเกณฑ์ประกอบการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขอัตราของ นขต.กห. และเหล่าทัพ
พ.อ.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกลาโหม เผยว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงการจัดส่วนราชการ กห. ครั้งที่ 1/2565 และพิจารณาร่างหลักเกณฑ์ประกอบการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขอัตราของ นขต.กห. และเหล่าทัพ ซึ่งเป็นแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างและแก้ไขอัตราการจัดหน่วยของหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพที่มีมาอย่างต่อเนื่อง
โดยกำหนดให้การปรับปรุงโครงสร้างการจัดและอัตราให้ดำเนินการควบคู่กับการบรรจุกำลังพล โดยจะต้องปรับเกลี่ยเพื่อให้จำนวนยอดกำลังพลเป็นไปตามแนวทางการปฏิรูปการบริหารจัดการกำลังพลของกระทรวงกลาโหม กล่าวคือให้คงยอดกำลังพลไม่ให้เพิ่มขึ้นจากยอดบรรจุในเดือนกันยายน 2563
รวมทั้งให้ดำเนินการปรับลดกำลังพลลงจำนวนร้อยละ 5 ของยอดบรรจุภายใน ปีงบประมาณ 2570
การปรับปรุงโครงสร้างหน่วยกรณีที่มีภารกิจเพิ่มมากขึ้นให้พิจารณาทำการ ยุบ/เลิก รวมทั้งการรวมหน่วยสำหรับหน่วยที่มีภารกิจซ้ำซ้อน โดยต้องไม่เป็นผลทำให้เป็นการขยายชั้นยศผู้บังคับบัญชาหน่วยสูงขึ้น และเมื่อโครงสร้างการจัดหน่วยมีการเปลี่ยนแปลง คือลดลงจะส่งผลต่ออัตรากำลังพล
โดยการปรับปรุงแก้ไขอัตรากำลังพลนั้น จะต้องไม่ทำให้จำนวนกำลังพลแต่ละชั้นยศและงบประมาณรายจ่ายกำลังพลภาครัฐทุกประเภทเพิ่มขึ้น โดยการลดอัตรากำลังพลนี้เป็นไปตามแผนแม่บทการปฏิรูปการบริหารจัดการและปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงกลาโหม 2560-2569
การปฏิรูปงานกำลังพลที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ได้เริ่มไปแล้ว คือ ลดการผลิตทหารประจำการในสถานศึกษาของกระทรวงกลาโหม เช่น รร.ช่างฝีมือทหาร รร.นายสิบ และ รร.นายร้อยของทุกเหล่าทัพ
การบรรจุทดแทนข้าราชการทหารจากระบบกำลังพลสำรองเข้ารับราชการเป็นทหารชั่วคราว ระบบข้าราชการพลเรือนกลาโหม โครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด
ซึ่งการปฏิรูปดังกล่าวจะทำให้กระทรวงกลาโหมสามารถบริหารจัดการกำลังพลเพื่อตอบสนองภารกิจต่อต้านกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ