ไม่พบผลการค้นหา
พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล แนะ หลัก 3 ข้อ: Run > Hide > Fight เอาตัวรอดจากวิกฤตกราดยิงภายในอาคาร

พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ 'Torsak Sukvimol' แนะนำวิธีเอาตัวรอดจาก กรณีที่เจอมือปืนหรือบุคคลติดอาวุธเข้ามาในอาคาร (active shooter) และเริ่มต้นยิงคนภายในอาคารหรือพื้นที่หนึ่งพื้นที่ใดแล้ว

พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ ระบุว่า ไม่คิดว่าสิ่งที่ไปฝึกมาจาก FBI เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เกี่ยวกับ Active Shooter จะเกิดขึ้นจริงในประเทศไทย พวกเราพยายามถ่ายทอดเรื่องนี้ไปให้ตำรวจตลอดระยะเวลาสามปี ในหัวข้อ ASIM สิ่งที่ขาดไปคือการให้ความรู้กับพี่น้องประชาชน เมื่อต้องเผชิญเหตุในลักษณะเช่นนี้ สอนลูก สอนหลาน สอนคนที่ท่านรัก รู้ไว้ใช่ว่า

กรณีที่เจอมือปืนหรือบุคคลติดอาวุธเข้ามาในอาคาร (active shooter) และเริ่มต้นยิงคนภายในอาคารหรือพื้นที่หนึ่งพื้นที่ใดแล้ว

ยึดหลัก 3 ข้อ: Run > Hide > Fight หรือ Avoid/Deny/Defense

Run: หาทางออกจากอาคารให้เร็วและเงียบที่สุด อย่าสนใจทรัพย์สินหรือสิ่งของ เป้าหมายแรกคือออกจากตัวอาคารให้เร็วและปลอดภัยที่สุด เมื่อออกจากพื้นที่อันตรายได้แล้ว ค่อยโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่

  • ถ้าจำเป็น หาอุปกรณ์ช่วยกำบังตัวจากกระสุนปืน ค่อยๆ หลบจากที่กำบังแต่ละจุด
  • เมื่อออกมาจากพื้นที่อันตรายได้แล้ว ห้ามกลับเข้าไปในพื้นที่อีก

Hide: ถ้าไม่พบทางออก ทางออกถูกบล็อก หรือไม่รู้ทางออก ให้หาวิธีซ่อนตัว แทนการเดินหาทางออกไปเรื่อยๆ

  • กรณีเข้าไปหลบในห้อง หาวิธีป้องกันไม่ให้ผู้ก่อการร้ายเข้ามาในห้อง เช่น ล็อกประตู หาอะไรขวางประตูไว้
  • ปิดไฟ ปิดเสียงโทรศัพท์ เพื่อให้รู้สึกว่าไม่มีคนอยู่ และหลบซ่อนตัวอยู่หลังวัตถุขนาดใหญ่ เช่น โต๊ะ ตู้

Fight: ถ้าถูกมือปืนพบเข้าหรือไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ ให้พยายามหาอุปกรณ์เป็นอาวุธเพื่อต่อสู้กับมือปืน

  • พยายามต่อสู้เพื่อให้มือปืนไม่สามารถโจมตีเราได้ และให้ต่อสู้อย่างรุนแรงที่สุด แม้กระทั่งเด็กๆ มีดินสอเอาดินสอมาแทงตาคนร้ายก็ต้องทำ เป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรสอนลูก
  • อย่าหยุดนิ่งเป็นเป้า ให้เคลื่อนไหวตลอดเวลา ระหว่างต่อสู้ ถ้าสบโอกาสให้วิ่งหนีทันที
  • เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือทหารเข้ามาในพื้นที่ จะไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ก่อการร้าย และเป้าหมายแรกคือหยุดผู้ก่อการร้าย (ก่อนเริ่มช่วยเหลือผู้ประสบภัย) ดังนั้นต้องแสดงให้เจ้าหน้าที่เห็นว่าเราไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย โดยชูมือทั้งสองให้เห็นเด่นชัดว่าไม่มีอาวุธ