สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีการเมือง 2 ราย คือ ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เนื่องจากเป็นผู้ที่ได้รับการพักโทษว่า กรณีของปลอดประสพนั้น กําหนดโทษตามคําพิพากษา 1 ปี 8 เดือน ได้รับพระราชทานอภัยโทษ 1 ครั้ง เหลือกําหนดโทษครั้งหลังสุด 13 เดือน 10 วัน ได้รับการพักการลงโทษ กรณีมีเหตุพิเศษ อายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป
เนื่องจากขณะนี้ ปลอดประสพ อายุ 75 ปีได้รับโทษจําคุกมาแล้วระยะหนึ่ง เหลือโทษจําคุกต่อไป 7 เดือน ประกอบกับมีโรคประจําตัวหลายโรคและเจ็บป่วยเรื้อรัง จึงได้รับอนุมัติการปล่อยตัวพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษดังกล่าวก่อนครบกําหนดโทษ โดยใช้วิธีการคุมประพฤติร่วมกับ การติดกำไล EM เป็นเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. 2563 - 26 พ.ย. 2563 กําหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกเขต จ.นนทบุรี
สํานักงานคุมประพฤตินนทบุรีจะเป็นผู้สอดส่องดูแลให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการคุมประพฤติ ถ้าออกนอกจังหวัดต้องขออนุญาตพนักงานคุมประพฤติ แต่กรณีของนายปลอดประสพ อาศัยอยู่นนทบุรี อาจต้องมาหาหมอที่กรุงเทพฯ เป็นประจำ ทางกรมคุมประพฤติจึงกำหนดว่าห้ามออกนอก จ.นนทบุรีและกรุงเทพฯ
ส่วนกรณีของนายยงยุทธนั้น กําหนดโทษตามคําพิพากษา 2 ปี ได้รับพระราชทานอภัยโทษ 1 ครั้ง เหลือกําหนดโทษครั้งหลังสุด 16 เดือน จะพ้นโทษจําคุกในวันที่ 11 มิ.ย. 2564 จึงได้รับการพักการลงโทษกรณีเหตุพิเศษอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไปเนื่องจากมีอายุ 78 ปีและได้รับโทษจําคุกมาแล้วระยะหนึ่ง เหลือโทษจําคุกต่อไป 9 เดือน 3 วัน ประกอบกับมีโรคประจําตัว จึงได้รับอนุมัติการปล่อยตัวพักการลงโทษกรณีพิเศษดังกล่าวก่อนครบกําหนดโทษ โดยใช้วิธีการคุมประพฤติร่วมกับ การติดกำไล EM เป็นเวลา 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. 2563 - 4 ม.ค. 2564 กําหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งสํานักงานคุมประพฤติกรุงเทพ 1 เป็นผู้สอดส่อง ดูแลให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการคุมประพฤติ
"ผมขอยืนยันว่าการปล่อยตัวทั้ง 2 คนเป็นการปฏิบัติตามระเบียบและกฎเกณฑ์ทุกประการ เรื่องนี้ไม่มีการหวังประโยชน์ทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น การปล่อยตัวทั้ง 2 คนเรายังใช้วิธีการติดตามโดยการสวมกำไล EM และต้องมีการรายงานตัวต่อกรมคุมประพฤติอย่างสม่ำเสมอ" สมศักดิ์ กล่าว