แจ็ค หม่า ประธานบริหารสูงสุดของอาลีบาบากรุ๊ปกล่าวในงาน world Economic Forum ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวานนี้ว่า การปฏิวัติเทคโนโลยี อาจนำไปสู่การทำสงครามโลกครั้งใหม่ๆ โดยอธิบายถึงสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เกิดขึ้นเพราะการปฏิวัติเทคโนโลยีครั้งแรก และการปฏิวัติเทคโนโลยีครั้งที่ 2 ก็เป็นชนวนเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 และตอนนี้พวกเรากำลังเข้าสู่ยุคการปฏิวัติเทคโนโลยีครั้งที่ 3
ทั้งนี้แจ็ค หม่ายังกล่าวว่า ในฐานะบริษัททางด้านเทคโนโลยี เขาเชื่อว่าเทคโนโลยีนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการใช้ชีวิตของมนุษย์ และยังเชื่อว่าเทคโนโลยีจะสร้างงานจำนวนมากมายให้เกิดขึ้นในอนาคตด้วย
นอกจากนี้หม่ายังแนะนำ องค์การการค้าโลก (WTO) ว่า ต้องยกระดับองค์กรให้เป็นเวอร์ชั่นสองด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงาน
"30-40 ปีที่ผ่านมา โลกาภิวัตน์ช่วยให้หลายประเทศมีความก้าวหน้าในทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะประเทศจีน และตอนนี้ทั่วโลกต่างคาดหวังถึงโลกาภิวัฒน์ในรูปแบบใหม่ที่ช่วยยกระดับประเทศต่างๆ"
ทั้งนี้หม่าได้ยกตัวอย่างเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในประเทศรวันดา ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการซื้อขายเมล็ดกาแฟซึ่งสามารถซื้อขายกับพ่อค้าผู้รับซื้อชาวจีนได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางอีกต่อไป ซึ่งทำให้ราคาผลผลิตที่เกษตรกรได้เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า
มหาเศรษฐีแห่งแดนมังกร ยังกล่าวว่า "แม้ว่าหลายคนจะรู้สึกถูกกีดกันจากกระแสของโลกาภิวัฒน์ แต่กระแสดังกล่าวจะช่วยให้ประเทศกำลังพัฒนาและบริษัทขนาดเล็กเติบโตได้ และเขายังเชื่อว่ากว่า 60,000 บริษัทใหญ่ๆ ทั่วโลกที่ควบคุมระบบกระแสโลกาภิวัฒน์ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา จะมีส่วนช่วยธุรกิจอีกกว่า 60 ล้านธุรกิจเติบโต รวมไปถึงผู้ประกอบกิจการขนาดเล็กด้วย"
"ทุกวันนี้เขตการค้าเสรีส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาเพื่อบริษัทใหญ่ๆ เท่านั้น แต่เราคิดว่าควรจะต้องมีเขตการค้าเสรีเพื่อการนำเข้าและส่งออกสินค้าสำหรับกิจการขนาดเล็กด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ควรจะเป็นการค้าแบบปลอดภาษี"