วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุถึงกรณีการเรียกร้องให้ทบทวนการแต่งตั้ง สราวุธ เบญจกุล ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์โดยพลการ อันเป็นการแทรกแซงการบริหารงานบุคคลของสำนักงานศาลยุติธรรม กับ กรณีการแต่งตั้ง สราวุธ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคดีพิเศษ ว่า ต้องให้หน่วยงานที่เป็นเจ้าของเรื่องเสนอมา เพราะทั้งหมดที่ตั้ง สราวุธขึ้นมา ไม่ใช่เป็นการเลือกจากข้างบน การที่เป็นคณะกรรมการของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้ จะต้องมีคณะกรรมการสรรหา
ทั้งนี้ หน้าที่ของรัฐบาลคือนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาสนองพระบรมมาราชโองการ โปรดเกล้าฯ หรือการตั้งเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจต่างๆ เป็นเรื่องที่บอร์ดจะเสนอผ่านคณะรัฐมนตรีหรือเจ้ากระทรวงขึ้นมา
วิษณุ ยอมรับว่าการทบทวนทำได้ แต่เป็นเรื่องของหน่วยงานที่ตั้งต้นเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนได้มีการตรวจสอบก่อนหน้านี้หรือไม่ว่า สราวุธ ติดคำสั่งศาลฎีกานั้น จากที่ได้รับรายงานขณะนี้ยังไม่มีการลงโทษอะไรชัดเจน แต่ที่สำคัญคือสราวุธไม่ใช่ผู้พิพากษาหรือข้าราชการตุลาการ เป็นเพียงข้าราชการธุรการสำนักงานศาลยุติธรรม
ซึ่งก่อนหน้านี้ สราวุธเป็นผู้พิพากษามาก่อนหลายปี แต่ราว 10-20 ปีที่แล้ว ได้โอนไปเป็นข้าราชการธุรการ ในตำแหน่งรองเลขา และขึ้นมาเป็นเลขานุการศาลยุติธรรม ไม่ใช่ผู้พิพากษานั่งบัลลังก์ตัดสินคดีไม่ได้ แต่หากจะกลับไปเป็นผู้พิพากษา ตามกฏหมายระบุว่า จะต้องกลับไปในตำแหน่งที่ไม่สูงกว่าเดิม จึงตั้งให้เป็นที่ปรึกษาสำนักงานศาลยุติธรรม ไม่ใช่ที่ปรึกษาศาล
ส่วนจะไม่มีปัญหาภายหลังใช่หรือไม่นั้น วิษณุ ระบุว่า เท่าที่ได้รับรายงานขณะนี้ยังไม่มีปัญหาอะไร แต่หากเป็นการนำตุลาการมาจะต้องมีการขออนุญาต