“(ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์) ปูตินต้องการการสนับสนุน อะไรก็ได้ที่จะช่วยได้” กองกำลัง NATO แถลง หลังจากเห็นความเป็นไปได้ที่มากขึ้นว่าเบลารุสจะเข้ามาร่วมกับความขัดแย้งในครั้งนี้ นอกจากนี้ ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลเบลารุสของ อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ประธานาธิบดีเผด็จการยังได้ชี้อีกว่า กองกำลังของเบลารุสมีความพร้อมในการเข้าร่วมสงครามแล้ว
ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลเบลารุสเปิดเผยอีกว่า หน่วยโจมตีของเบลารุสพร้อมจะยกพลเข้าดินแดนยูเครนเร็วที่สุดภายในระยะเวลาไม่กี่วันข้างหน้านี้ หลังจากรับบาลเบลารุสเกณฑ์กองกำลังเอาไว้พร้อมแล้วกว่าหลายพันนาย อย่างไรก็ดี มีการคาดการณ์ว่ากองทัพของเบลารุสจะไม่ได้ส่งผลกระทบทางทหารในเชิงภูมิรัฐศาสตร์มากนัก
ในอีกทางหนึ่ง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงานสืบราชการลับจาก NATO ระบุว่า รัฐบาลเบลารุส “กำลังเตรียมสถานการณ์เพื่อสร้างความชอบธรรมในการที่เบลารุสจะเข้ารุกรายูเครน” อย่างไรก็ดี รัสเซียได้ใช้เบลารุสเป็นทางผ่านในการเข้ารรุกรานยูเครนจากบริเวณตอนเหนือตั้งแต่เดือนก่อน หลังจากก่อนหน้านี้ที่รัสเซียและเบลารุสอ้างว่าตนทำการซ้อมรบในบริเวณดังกล่าวเท่านั้น
เบลสารุสมีความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของตนเองเมื่อเดือนก่อน เพื่อเปิดทางให้รัสเซียสามารถตั้งกองกำลังและติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์อย่างถาวรในประเทศของตนเองได้ อย่างไรก็ดี ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่ารัสเซียได้เคลื่อนย้ายอาวุธนิวเคลียร์ของตนเองเข้ามายังเบลารุสแต่อย่างใด
สำนักข่าว CNN อ้างแหล่งข้อมูลย้ำว่ายังคงไม่มีวันที่แน่ชัดว่าเบาลารุสจะเข้าร่วมการรุกรานยูเครนกับรัสเซียเมื่อไหร่ ในทางตรงกันข้าม กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ออกมาเห็นค้านว่า ตนยังไม่เห็น “สัญญาณใดๆ ที่บ่งชี้ว่าเบลารุสกำลังเตรียมเคลื่อนพลเข้ามาในยูเครน หรือว่าพวกเขาจะทำข้อตกลงใดๆ เพื่อการกระทำในลักษณะเดียวกัน”
เจ้าหน้าที่ทหารของ NATO ย้ำว่า การตัดสินใจในขั้นสุดท้ายของการส่งกำลังพลเบลารุสเข้ามายังยูเครน ยังคงต้องรอการอนุมัติจากทางรัสเซียเอง อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าเบลารุสได้มีส่วนร่วมกับการรบพุ่งในยูเครนที่ดำเนินมาแล้วกว่าเกือบเดือน “มันไม่ใช่เรื่องที่ว่าลูคาเชนโกต้องการอะไร คำถามคือ ปูตินต้องการประเทศที่ไม่มีเสถียรภาพเพิ่มอีกในภูมิภาคนี้หรือไม่” NATO ระบุ “การเข้ามามีส่วนร่วม (กับสงคราม) จะทำให้เบลารุสไม่มีเสถียรภาพ”
ที่มา: