หลังจากวานนี้ (13 ม.ค. 2563) ที่ประชาชนเดินขบวนไปรัฐสภา เกียกกาย เพื่อยื่นข้อเสนอในการแก้รัฐธรรมนูญ 2560 ต่อ กมธ.ศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่ออดีตพรรคอนาคตใหม่ และในฐานะกรรมาธิการ กล่าวกับ ‘วอยซ์ ออนไลน์’ ว่า การยื่นข้อเสนอของประชาชน เป็นการยื่นเข้าสู่ กมธ. ก็ต้องเอาไปคุยกันถึงข้อเสนอที่ภาคประชาชนเสนอว่าสุดท้าย กมธ.จะเห็นอย่างไร เพราะแต่ละ กมธ. เป็นตัวแทนจากประชาชนกลุ่มต่างๆ และจากพรรคการเมืองที่หลากหลาย ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ต้องยอมรับว่า กมธ. มีความเห็นที่ไม่ตรงกันในหลายๆ เรื่อง ดังนั้นเราก็ต้องเอาเรื่องนี้มาคุย
"ผมคิดว่าหลายพรรคการเมืองเห็นด้วยกันก็คือว่าท้ายที่สุดไม่ว่าเราจะมีความเห็นต่างกันยังไง ฝั่งที่ชนะคือฝั่งประชาชน ความเห็นของประชาชนจะเป็นความเห็นที่ชนะเสมอ”
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า สุดท้าย กมธ. ก็จะรายงานเสนอต่อสภาฯ เสนอต่อคณะรัฐมนตรี ถ้าต้องการจะให้เกิดการแก้ไขภายใต้พื้นฐานที่ความเห็นแตกต่างกันของไม่ว่าจะฝั่งรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ต้องอาศัยการสนับสนุน การผลักดันของภาคประชาชน ซึ่งตนคิดว่านี่คือจุดเริ่มต้นของการมีส่วนร่วมพื้นฐานที่สุด จากนั้นก็มาหากลไกว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม
“เพราะในที่สุดรัฐธรรมนูญดีหรือไม่ดีไม่ได้หมายถึงว่าสุดท้ายมันชอบด้วยหลักนิติศาสตร์ไหม สุดท้ายมันชอบด้วยหลักรัฐศาสตร์ไหม แต่ความสำคัญคือทำยังไงให้เสียงของประชาชนเข้าไปอยู่ในรัฐธรรมนูญ“
เชื่อ พลังประชาชนกดดัน ส.ว. เปิดทางแก้รัฐธรรมนูญ
นายรังสิมันต์ยังกล่าวอีกด้วยว่า สิ่งที่ประชาชนกำลังพูดกำลังผลักดันกลายเป็นรูปธรรมอยู่บนพื้นฐานของตัวบทรัฐธรรมนูญนี่คือสิ่งที่เราต้องพยายามพลักดันกันไป แต่ว่า ถึงที่สุดสภา 500 คนตามรัฐธรรมนูญไม่พอ เราจำเป็นต้องใช้เสียงของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เราต้องการเสียงของ ส.ว. 80 กว่าคน เราต้องการการสนับสนุนของภาคประชาชนต่อวุฒิสภาด้วยเพื่อให้เขาทำหน้าที่ตามที่ประชาชนต้องการ
“ผมยังเชื่อว่า ส.ว.ก็มีจิตใจ เข้าคงไม่อยากให้สังคมเกลียด ถ้าเสียงของประชาชนหรือความต้องการของประชาชนมากพอ ผมเชื่อว่าสว.แม้เขาไม่ได้มีความชอบธรรม ไม่ได้มีที่มาจากประชาชน เขาก็ต้องรับฟัง ยอมจำนนต่อเสียงประชาชน”
พร้อมกับกล่าวตอนท้ายว่า วันนี้สภาเราเริ่ม ถ้า ส.ว. เปิดทาง ทำยังไงในรัฐธรรมนูญเป็นหัวใจของความต้องการของประชาชนได้ ผมว่าทุกอย่างจบ เราแก้ปัญหาการเมืองได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :