ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานแถลงข่าวการ “Kick off มอบโฉนดเพื่อการเกษตร” ว่า เป็นการมอบโฉนดที่ดินฯ ให้กับเกษตรกรผู้ทำกินในเขตปฏิรูปที่ดินพร้อมกันทั่วประเทศ จำนวน 25,000 ฉบับ ในวันที่ 15 มกราคมนี้ โดยนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานมอบโฉนดเพื่อการเกษตรจำนวน 1,000 ฉบับ ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเหตุผลที่ใช้พื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพราะ จ.อยุธยา เป็นโฉนด สปก.ฉบับแรก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 ได้มอบให้กับเกษตรกร เป็นแปลงแรก
สำหรับส่วนภูมิภาคจะจัดขึ้นที่ ศูนย์บริการเกษตรพิรุณราชในแต่ละจังหวัด ส่วนที่นายกฯ ได้เร่งให้ดำเนินการในพื้นที่22 ล้านไร่ให้เสร็จโดยเร็ว นั้น รมว.กษ.กล่วว่า เรื่องนี้จะต้องศึกษาว่าต้องใช้งบในการเร่งการออกโฉนดประมาณเท่าไหร่ ส่วนจะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับงบประมาณที่ใช้ ถ้าไม่เพียงพอก็จะหารือกับสำนักงบประมาณ และหารือกับนายกฯต่อไป
ส่วนในแง่ทางด้านเศรษฐกิจหลังจากที่มีการแปลงเป็นโฉนดเพื่อการเกษตรแล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ณ เวลานี้ ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันทรัพย์สินที่อยู่ในพื้นที่ สปก. จะมีมูลค่ามากขึ้นเช่นกัน โดยประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ในการเปลี่ยนมือแล้วสามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการเกษตรได้มากขึ้นในจำนวน 22 ล้านไร่ มีเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 1 ล้าน 6 แสนครอบครัว
นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังกำชับให้เจ้าหน้าเข้าไปตรวจสอบเข้มในการป้องกันนอรมินีสวมสิทธิ์รับโฉนดทั่วประเทศ หากพบการกระทำความผิดจะถูกต้องดำเนินคดีอาญา และยึดคืนทันที พร้อมเดินหน้าเตรียมออกโฉนดต้นยางและกระชังปลาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเกษตรกร
และเมื่อวานนี้ (9 ม.ค. 67) ได้นำ ฉู ตง หยู (Mr. Qu Dongyu) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations: FAO) เข้าพบนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยได้มีการพูดคุยเรื่องการเปลี่ยน สปก. 4-01 ให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร และได้เร่งให้ดำเนินการในพื้นที่22 ล้านไร่ให้เสร็จโดยเร็ว ดังนั้น กระทรวงเกษตรฯ จึงต้องดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว