นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี พรรคพลังท้องถิ่นไท อภิปรายพระราชกำหนดกู้เงิน 3 ฉบับ จำนวนเงิน 1.9 ล้านล้าน ได้แก่ พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019, พระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019, พระราชกำหนดการรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยกล่าวว่า ตนขอแสดงความยินดีกับประชาชนไทยที่รัฐบาลไทยแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสดีอยู่ในอันดับต้นของโลก ในทางกลับกันถ้าประเทศไทยเป็นเหมือนสหรัฐอเมริกา หรือประเทศอื่นที่มีการระบาดมาก คนไทยจะอยู่อย่างไร ตนดูแลคนในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีในการได้รับเงินเยียวยา แต่คนชายขอบที่ยังไม่มีโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ตที่ไม่สามารถลงทะเบียนได้ ต้องไปอุทธรณ์และทบทวนสิทธิ์ที่คลังจังหวัด แต่เมื่อไปแล้วบอกว่าไม่ได้ลงทะเบียนก็หมดสิทธิ์ ต้องไปร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และส่งเรื่องมาให้คณะกรรมการของกระทรวงการคลังพิจารณาอีกครั้ง

"ผมเห็นว่าเราต้องทำอย่างไรก็ได้ให้คนที่เดือดร้อนได้รับเงินเยียวยาเหมือนกัน ช่วงแรกที่แจกเงินเยียวยา ตนโพสต์ถามในเฟซบุ๊กก็โดนตำหนิอย่างมาก แต่ตอนนี้รัฐบาลแก้ปัญหาจนได้รับเงินกันเกือบถ้วนหน้า แถมยังจะมีการมอบเงินเยียวยาให้กับกลุ่มเปราะบางเพิ่มอีก ตนขอชื่มชนรัฐบาล ฝากถามต่อไปว่าจะทำอย่างไรให้กลุ่มคนชายขอบได้รับเงินเยียวยาด้วย" นายจารึก ระบุ

นายจารึก กล่าวว่า ฝากไปถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้คนไทยกินดีอยู่ดี โดยใช้โครงการต่างๆ ยกตัวอย่าง วิสาหกิจชุมชน โอทอป หรือเงินกองทุนหมู่บ้าน อาจใช้กลไกท้องถิ่นทำให้โครงการเหล่านี้ที่เคยทำมาก่อนแล้วทำให้กินดีอยู่ดี รื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อให้ประชาชนกลับมากินดีอยู่ดี ส่วนเงินกองทุนหมู่บ้าน ในจันทบุรีมีกองทุนสัจจะสะสมทรัพย์ แม้จะไม่มีเงินสนับสนุนจากรัฐบาล แต่เป็นการลงทุนและบริหารจัดการกันเอง เพื่อแก้ปัญหาปากท้องของคนในชุมชน สามารถนำมาเป็นตัวอย่างได้ อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐบาลวางไว้ก็อยากให้ทำต่อไป โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำวังโตนดในจังหวัดจันทบุรี