ลีนา คาธิบ ผู้อำนวยการโครงการตะวันออกกลางจากชาแธมเฮาส์ สถาบันด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อธิบายว่า เมื่ออาบู บัคร์ อัล-แบกห์ดาดี ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายไอเอสเสียชีวิตจากการบุกของกองทัพสหรัฐฯ แล้ว อนาคตของกลุ่มไอเอสจะขึ้นอยู่กับพลวัตรในพื้นที่ซีเรีย ไม่ว่าไอเอสจะมีผู้นำหรือไม่มีก็ตาม
แม้แบกห์ดาดีจะเป็นเครื่องมือที่ทรงอิทธิพลของไอเอส โดยเฉพาะในเวลาที่กลุ่มไอเอสพยายามจะก่อตั้งรัฐอิสลาม โดยยกแบกห์ดาดีขึ้นเป็นกาหลิบของรัฐอิสลาม เพื่อให้แนวร่วมทั่วโลกได้เห็นหน้าตาของหัวหน้าที่จะทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมจิตใจ และแม้ไอเอสจะสูญเสียพื้นที่ยึดครองในซีเรียและอิรักไปหมดแล้ว แต่สุนทรพจน์ของแบกห์ดาดีก็ยังสามารถปลุกใจแนวร่วมของตัวเองได้อย่างมาก
แม้กลุ่มไอเอสจะมีขนาดเล็กลงจากเดิมมาก แต่ไอเอสก็ยังไม่ล่มสลาย กลุ่มไอเอสปรับตัวจากการปฏิบัติการพื้นราบแบบทหาร กลับมาเป็นการซุ่มโจมตีและวางระเบิดแบบช่วงแรกที่กลุ่มไอเอสรุ่งเรืองขึ้นมา
กลุ่มไอเอสยังคงต่อสู้และรอเวลาที่เหมาะสมในการทวงคืนพื้นที่ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ตุรกีบุกพื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรีย ทำให้กองกำลังชาวเคิร์ดและกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (SDF) ต้องส่งกำลังพลออกไปรบ แทนที่จะมาเฝ้านักโทษกลุ่มไอเอสที่อยู่ในคุก แนวร่วมไอเอสบางคนก็หันไปเข้าร่วมกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ที่มีความใกล้เคียงกับกลุ่มไอเอสมากที่สุด
ส่วนเขตดีร์ อัล ซูร์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียก็เป็นพื้นที่เสี่ยงว่ากลุ่มไอเอสจะสามารถช่วงชิงกลับมาจากกองกำลัง SDF เพราะแม้ SDF จะควบคุมพื้นที่ดังกล่าวอยู่ แต่คนในพื้นที่ก็ไม่ค่อยยอมรับนัก เนื่องจากคนในพื้นที่เป็นชาวอาหรับ แต่กองกำลัง SDF ส่วนใหญ่เป็นชาวเคิร์ด กลุ่มไอเอสจึงน่าจะสามารถอาศัยช่วงชุลมุนนี้ในการรวบรวมกำลังพลของตัวเอง
ด้านอาคี เพอริตซ์ อดีตนักวิเคราะห์การปราบปรามการก่อการร้ายของสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ ซีไอเอ กล่าวว่า การกำจัดผู้นำของกลุ่มไอเอสได้ก็เป็นเรื่องดี แต่ก็ไม่ควรจะกำจัดเฉพาะกลุ่มก่อการร้าย แต่ควรต้องกำจัดอุดมการณ์การตั้งรัฐอิสลามด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก
สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นก็คือ กลุ่มไอเอสจะหาคนขึ้นมาเป็นผู้นำแทนแบกห์ดาดี เพื่อสถาปนารัฐอิสลามขึ้นอีกครั้งที่เมืองอิดลิบ ซึ่งเป็นเมืองที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงว่า เป็นสถานที่เสียชีวิตของแบกห์ดาดี
คาธิบยังมองว่า กลุ่มไอเอสอาจใช้การเสียชีวิตของแบกห์ดาดีในการระดมพล หาแนวร่วมเพื่อแก้แค้นตะวันตก แต่แนวคิดว่าพวกเขาจะสู้จนหมดลมหายใจเพื่อผู้นำอาจไม่มีอีกต่อไปแล้ว เพราะในการต่อสู้รอบก่อน มีคนร่วมต่อสู้อยู่แนวหน้าให้กับอาบู อายมาน อัล-อิรักคี ผู้นำไอเอสในซีเรียอยู่เพียง 6 คนเท่านั้น นักรบไอเอสส่วนใหญ่ทอดทิ้งผู้นำของตัวเองให้อยู่ในน้ำมือของ SDF
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: