ไม่พบผลการค้นหา
ส.ส.นครพนม เพื่อไทย หนุนตั้ง กมธ.ป้องกันรัฐประหาร ชงให้ทหารถวายสัตย์จะไม่รัฐประหารล้มล้างประชาธิปไตย พร้อมแนะให้ศาลปฏิรูปตัวเองไม่ละเลยหลักความยุติธรรม

ในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมาได้พิจารณาญัตติการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อศึกษาแนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดรัฐประหารเกิดขึ้นอีกในอนาคต ตามที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และคณะเป็นผู้เสนอ

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ถ้าการรัฐประหารเป็นเรื่องดีในตอนนี้ประเทศไทยเป็นมหาอำนาจของโลกไปแล้ว แต่การรัฐประหารครั้งใดประเทศกลับถอยหลังเข้าคลอง การรัฐประหารเมื่อ 22 พ.ค. 2557 ทำให้ประเทศชาติเสื่อมทรุด โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ เป็นผลพวงจากการรัฐประหารที่ทำให้ประเทศไม่มีความเชื่อมั่น การปฏิวัติ 2557 สร้างความเสียหายให้กับประเทศ การปฏิรูปการปรองดองไม่มีความคืบหน้าและไม่มีความจริงใจ การปราบปราบการทุจริตแทนที่จะลดลงกลับเพิ่มขึ้น 

ส่วนองค์กรความโปร่งใสนานาชาติจัดอันดับ 96 ของโลกเป็น 99 ของโลกได้ 33 คะแนนจากเต็ม 100 อีกทั้งคณะรัฐประหารต่อท่ออำนาจให้อยู่ในอำนาจต่อ เห็นได้จากกำหนดกติกาให้เป็นจัดสรรปันส่วนผสมทำให้มีพรรคการเมืองต่างๆมากมาย ไม่มีพรรคการเมืองใดได้เสียงข้างมาก คณะรัฐประหารแต่งตั้ง ส.ว. เลือกนายกฯ ทั้งสองประการผูกขาดต่อท่ออำนาจ ต่างประเทศมองออกว่าการเมืองไทยไม่มีเสถียรภาพจึงไม่มาลงทุน และย้ายฐานหนี เป็นการลงทุนลมไม่มีการลงทุนจริง ถ้าระบบการเมืองเป็นอยู่ปัจจุบัน ประเทศไทยจะเป็นคนป่วยของเอเชีย ตนอยากให้ กมธ.แก้ปัญหาการเมืองให้มีเสถียรภาพเป็นประชาธิปไตย ดังนั้น สภาฯควรตั้ง กมธ.ป้องกันไม่ให้เกิดการรัฐประหารอีกในอนาคต 

ส่วนตัวขอเสนอว่า 1.ผู้ปฏิวัติทุกครั้งที่ผ่านมาล้วนเป็นทหาร เราเห็นใจทหารอาชีพ ทหารมีธรรมเนียมปฏิบัติคือถวายสัตย์ปฏิญาณ ทหารต้องยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตนเห็นว่าการป้องกันปฏิวัติรัฐประหาร ควรมีข้อความถวายสัตย์ฯ ตอนหนึ่งว่า "ข้าพระพุทธเจ้าจะไม่ปฏิวัติ รัฐประหาร การปกครองระบอบประชาธิไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" หากมีการถายสัตย์เช่นนี้จะไม่มีการปฏิวัติรัฐประหารอีก

2. ศาลควรปฏิรูปตัวเองในปัจจุบันประธานศาลฎีกา ได้ปฏิรูปการบริการกับประชาชน การพิจารณาให้ประกันตัวผู้ต้องหาในวันหยุดราชการ ตนขอยกคำวินิจฉัยของผู้พิพากษาเสียงส่วนน้อยไห้คดีหมายเลขแดง อม9/2552 ตนขอยกความเห็นดังกล่าวมาว่า "การได้อำนาจมาซึ่งวิธีการที่ไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตยเท่ากับเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย การปฏิวัติหรือรัฐประหารเป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 113 หากศาลรับรองอำนาจของบุคคลที่รัฐประหารว่าเป็นรัฏฐาธิปัตย์แล้วเท่ากับศาลไม่ได้รับใช้ประชาชน เป็นการละเลยหลักยุติธรรม" ซึ่งนายกีรติ กาญจนรินทร์ ผู้พิพากษาได้แสดงความเห็นส่วนตนไว้อย่างกล้าหาญเพียงแต่ท่านเป็นเสียงส่วนน้อย ดังนั้น ประเทศไทยไม่ควรเป็นกบในกะลา ตนขอเรียกร้องให้ศาลปฏิรูปตัวเองเพื่อประชาชน ประเทศชาติ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง