นายสก็อต มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลียออกแถลงการณ์ในวันนี้ ระบุว่ารัฐบาลออสเตรเลียให้การรับรองว่าเยรูซาเล็มฝั่งตะวันตกเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลอย่างเป็นทางการ ขณะเดียวกันก็ให้การรับรองว่าเยรูซาเล็มฝั่งตะวันออกก็เป็นเมืองหลวงของปาเลสไตน์เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามรัฐบาลออสเตรเลียจะยังคงไม่ย้ายสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย จากกรุงเทลอาวีฟ มายังกรุงเยรูซาเล็มจนกว่าระบวนการเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์จะสิ้นสุดลง ซึ่งรัฐบาลออสเตรเลียจะย้ายสถานทูตเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
สก็อต มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯประกาศรับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และตัดสินใจย้ายสถานทูตสหรัฐฯจากกรุงเทลอาวีฟมายังเยรูซาเล็มเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนนายมอร์ริสันเคยประกาศว่าออสเตรเลียกำลังพิจารณาเรื่องย้ายสถานทูตออสเตรเลียไปยังกรุงเยรูซาเล็มเหมือนสหรัฐฯ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับอินโดนีเซียและมาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่นับถือศาสนาอิสลามและอยู่ใกล้กับออสเตรเลีย โดยกลุ่มประเทศที่นับถือศาสนาอิสลามทั้งในเอเชียและตะวันออกกลาง วิตกกังวลว่าการรับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล จะทำให้ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ปะทุรุนแรงขึ้นอีกครั้ง
เยรูซาเลมเป็นเมืองสำคัญที่มีความเก่าแก่และเป็นประเด็นขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์มาอย่างยาวนาน ซึ่งต่างฝ่ายต่างระบุว่าเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของทั้ง 2 รัฐ โดยอ้างอิงถึงสถานที่สำคัญของศาสนายูดายและศาสนาอิสลามที่ตั้งอยู่ในเขตเยรูซาเลมทั้งคู่ แม้ว่าขณะนี้ ผู้ที่อาศัยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มส่วนใหญ่เป็นชาวอิสราเอล และอิสราเอลจะอ้างว่าเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของตัวเอง แต่ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับจากประชาคมโลกอย่างเป็นทางการ