ที่โรงแรมอวานี เอเทรียม 7 พรรคฝ่ายประชาธิปไตย ประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย และนายสุภดิช อากาศฤกษ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ รวมถึงนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ร่วมหารือ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า เราได้หารือและประมวลสถานการณ์ทั้งหมด ก็พึงพอใจในหน้าที่ที่ได้ทำอย่างดีที่สุด เรายังยืนยันยึดมั่นในเจตนารมณ์ที่ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกพวกเรามา และยืนยันว่าเรายังยึดมั่นในสิ่งที่ได้แถลงต่อประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พยายามให้ประเทศไทยกลับสู่สภาวะที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่ต้องการเห็นการสืบทอดอำนาจ ไม่อยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาทำหน้าที่ต่อ ซึ่งใน 5 ปีที่ผ่านมา ได้พิสูจน์แล้วว่ามีปัญหา เราอยากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ กฎหมายเลือกตั้ง ให้เข้าสู่สภาวะปกติ เพราะเรารู้ว่ากฎหมายรัฐธรรมมนูญ และกฎหมายต่าง ๆ สร้างปัญหาให้กับประเทศไทยอย่างไรบ้าง ซึ่งเราทุกคนยึดมั่นว่าจะดำเนินการกันต่อไป และจะจับมือกันทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรอย่างสมบูรณ์ที่สุด
เมื่อถามว่าตอนนี้พรรคพลังประชารัฐ ได้เทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย ในการจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว พรรคเพื่อไทยจะเตรียมพร้อมอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า จากนี้ไปจะเป็นกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งเราต้องรอให้มีการโปรดเกล้าฯ ประธานสภาฯ ให้เรียบร้อย ก็จะมีการประชุม และยังยืนยันว่าสิ่งที่เรายึดมั่น และตัดสินใจเลือกไปในทิศทางเดียวกันเหมือนเดิม
เมื่อถามว่าทั้ง 7 พรรคจะมีแนวทางการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีอย่างไร จะเสนอบุคคลที่แต่ละพรรคได้เสนอไว้กับประชาชนตอนหาเสียง หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเพียงคนเดียว นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนคิดว่าเราต้องเชื่อมั่นในสมาชิกพรรคของเราทุกคน เราเชื่อมั่นใน 7 พรรคของเรา เชื่อว่าเสียงโหวตจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และจะสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนชัดเจน ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะต้องคุยกันต่อ เพื่อตัดสินใจในทิศทางเดียวกัน ตอนนี้ยังมีเวลา เพราะยังไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประธานสภาฯ
นายภูมิธรรม ระบุกรณีพรรคประชาธิปัตย์เคยประกาศไว้ว่าจะไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ แต่กลับมาจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ ว่า นักการเมืองพูดไว้กับประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การได้แสดงเจตนารมณ์และประกาศอะไรไปต้องยึดมั่นในสิ่งต่างๆ
ด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า ถ้าเราไม่ต้องการการสืบทอดอำนาจ ไม่ต้องการ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมา หรือไม่ต้องการให้ระบอบ คสช. อยู่กับเราในรูปแบบของรัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่ต้องไปเรียกร้องให้พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนหลักในการแก้รัฐธรรมนูญ
ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ยังคาดหวังไปคุยให้พรรคพลังประชารัฐแก้รัฐธรรมนูญ นายธนาธรมองว่า "เป็นเรื่องตลก และเป็นไปไม่ได้" เพราะพรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคที่ตั้งมาเพื่อสืบทอดอำนาจของระบอบ คสช. ถ้าต้องการแก้รัฐธรรมนูญจริง ๆ จะเห็นอยู่แล้วว่าพรรคการเมืองกลุ่มไหนที่ต้องการทำ และหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. มันเลือกข้างได้ชัดเจน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: