ไม่พบผลการค้นหา
‘อนุทิน’ เผยหากกระตุ้นวัคซีนเข็ม 3 ได้ไว จะช่วยป้องกันอาการเจ็บป่วยหนักโควิดได้ทุกสายพันธุ์ เชื่อโอไมครอนอาการไม่หนักใช้ระบบโฮมไอโซเลชั่น หรือ คอมมูนิตี้ ไอโซเลชั่นได้ วอนอย่ากังวลสายพันธุ์โอไมครอน แจงมติ ศบค.ไม่ได้สั่งให้ปิดประเทศฝากสื่อเขียนข่าวดีๆ

วันที่ 22 ธ.ค. 2564 ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทย ว่า ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อที่เข้าข่ายสายพัน​ธุ์โอมิครอน รวมทั้งสิ้น 104 ราย จำนวนนี้ยืนยัน 27 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามผู้สัมผัสทั้งหมด โดยมี 1 ครอบครัวที่เดินทางจาก จ.กาฬสินธุ์ ไป จ.อุดรธานี ก่อนกลับเข้ามากรุงเทพฯ ภายหลังกลับมาจากต่างประเทศ ซึ่งมีการตรวจช่วงแรกที่เข้าประเทศไม่พบเชื้อ แต่เมื่อตรวจซ้ำได้พบเชื้อจึงได้ตามตัว โดยมั่นใจว่าไม่เป็นกรณีใหญ่เพราะรู้เส้นทาง 

อนุทิน​ กล่าวว่า​ ทางการแพทย์ ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน กับ เดลต้า อาการไม่ได้รุนแรงกว่ากัน แต่ความสามารถในการแพร่กระจายเชื้อเร็วกว่า จึงต้องพิจารณาเพิ่มเติมว่าการแพร่กระจายที่รวดเร็วในฝั่งยุโรป กับฝั่งประเทศไทยจะแตกต่างกันหรือไม่ เนื่องจากไทยมีมาตรการมีมาตรการที่เข้มข้นในการดำรงชีวิตประจำวัน เพราะไทยมี DMHT กว่า 90% รวมถึงการรับวัคซีนภายในประเทศ มาตรการในการเข้าประเทศของไทยมีความเข้มข้นกว่าต่างประเทศ 

"ตราบใดที่โอไมครอน ยังไม่มีการพิสูจน์ทางการแพทย์ว่าอาการของโรคจะตอบสนองอย่างรุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่น เราก็จะใช้มาตรการเฝ้าระวัง เหมือนกับเฝ้าระวังเชื้อโควิดสายพันธุ์ทั่วไป ที่เข้มข้นขณะนี้ โดยไม่ต้องไปกังวลว่าเป็นสายพันธุ์อะไร และที่สำคัญการกระตุ้นวัคซีนเข็ม 3 ก็จะเป็นการป้องกันได้ดี "

ยันยารักษาเพียงพอ วัคซีนพอ ขอผู้ประกอบการเข้มข้น COVID Free Setting

รองนายกฯ ยืนยันว่า​ โรงพยาบาลที่รับรักษาผู้ป่วยมียาเพียงพอ ยาเราผลิตเอง อีกทั้งวัคซีนก็มีเพียงพอ ประกอบกับใช้มาตรการ DMHT จากนี้คงต้องขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้เข้มข้นในการใช้การยกระดับมาตรการกรณีเปิดสถานประกอบการในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่เปิดประเทศ (COVID Free Setting) เพราะรัฐบาลไม่ได้มีคำสั่งให้ปิดกิจการ และหากจังหวัดใดจัดการโดยไม่สามารถควบคุมประชาชนตามมาตรการที่รัฐกำหนดได้ ก็ต้องถือว่าบกพร่องและมีความผิดตามกฎหมาย รวมถึงผู้ที่อนุญาตให้จัดก็ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย ซึ่งประชาชนก็ต้องให้ความร่วมมือ หากทำได้แบบนี้โอกาสในการลดความเสี่ยงก็จะเกิดขึ้นได้ในระดับหนึ่ง 

อนุทิน ระบุว่า ประสบการณ์ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรง โดยใช้ระบบโฮม ไอโซเลชั่น หรือ คอมมูนิตี้ ไอโซเลชั่นเป็นสิ่งที่ได้ผล ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข กำลังเดินหน้าเรื่องนี้ในการรับมือ หากเจ็บป่วยปานกลางหลังจากนี้ก็จะใช้โรงพยาบาลสนาม ฮอสพิเทล ส่วนโรงพยาบาลก็จะไว้รองรับผู้ป่วยหนัก ดังนั้นเชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการสถานการณ์ได้ ดูแลประชาชนได้เพียงพอ ประกอบส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนเพียงพอ ก็จะลดการเจ็บป่วยที่หนักได้ ขออย่ากังวลจนเกินไป หากเรายังคงใช้มาตรการรักษาระยะห่างอย่างเข้มข้น ก็จะลดอัตราเสี่ยงการติดเชื้อได้มากอยู่แล้ว 

ประยุทธ์ อนุทิน สาธิต 4217000000.jpg


ตำรวจตามติดนักท่องเที่ยวอิสราเอลหนีกักตัว

อนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ที่หลบหนีจากสถานกักกันตัว ว่า​ ตำรวจได้ติดตามอยู่แล้ว หากเจอตัวก็ต้องรีบรักษาก่อน จากนั้นจึงดำเนินการทางกฎหมายและเนรเทศออกจากประเทศ ทั้งนี้ขอให้ความมั่นใจกระทรวงสาธารณสุข ได้มีมาตรการควบคุม คัดกรองนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามา ซึ่งในส่วนของนักท่องเที่ยวที่ลงทะเบียนผ่าน Thailand pass กว่า 9 หมื่นคนก่อนการปิดระบบรับชั่วคราว หากเราไปปรับเปลี่ยนก็จะลำบาก แต่ก็ได้เพิ่มมาตรการที่เข้มข้นกว่าเดิมรวมถึงมีระบบการติดตามตัวด้วย

อนุทิน ย้ำถึงมติ ศบค.เมื่อวันที่่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า​ ไม่ใช่การปิดประเทศ แต่สื่อไปพาดหัวสร้างความสับสน และเกิดความตื่นตระหนกให้ประชาชน ยืนยันเป็นการเพิ่มมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงเกิดความปลอดภัย จึงฝากสื่อมวลชนให้ฟัง และเขียนข่าวดีๆ ในเชิงสร้างสรรค์

นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำการจัดงานในช่วงปีใหม่ ว่าต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะหน้ากากอนามัยต้องใส่ตลอดเวลา และถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้ฉลองกันเป็นวงขนาดเล็ก และที่สำคัญระมัดระวังเรื่องการใช้ภาชนะ อย่ากินแก้วเดียวกัน อย่ากินช้อนเดียว เพราะถือเป็นจุดเสี่ยงที่อันตรายมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง