ไม่พบผลการค้นหา
‘เท่าพิภพ’ ตั้งกระทู้สดถามรัฐบาลถึงมาตรการเยียวยาประชาชน ‘รมว.คลัง’ แจง ไม่แจกเงินสด ไม่อยากให้สัมผัสเงิน เสี่ยงโควิด-19 ดันสังคมลดใช้เงินสด

เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่อาคารรัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดย เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้สด เรื่องความล้มเหลวในมาตรการเยียวยาผลกระทบด้านเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด-19 โดยระบุว่า ขณะนี้ประชาชนหลายภาคส่วนมีความลำบาก ที่มีการชุมนุมประท้วงเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ก็เกิดจากการเดือดร้อน แต่รัฐบาลกลับหยิบยื่นแก๊สน้ำตามาให้กับประชาชน ทั้งที่ความเป็นจริง ประชาชนร้องไห้เสียน้ำตาทุกวันอยู่แล้ว

เท่าพิภพ ก้าวไกล สภา_200916_1.jpg

เท่าพิภพ กล่าวว่า มาตรการขณะนี้ของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นโครงการคนละครึ่ง เราชนะ และ มาตรา 33 เรารักกัน ต้องเข้าใจก่อนว่าประชาชนไม่ได้มีสมาร์ตโฟนกันทุกคน จึงไม่เข้าใจว่ารัฐบาลคิดได้อย่างไร ในการช่วยคนลำบากให้เขามีความยากลำบากไปหาสมาร์ตโฟนมาลงทะเบียน

“ยกตัวอย่างมาตรการเราชนะ ที่จะเปิดลงทะเบียบสำหรับคนไม่มีสมาร์ตโฟนในวันที่ 15 ก.พ.ที่สาขาธนาคารกรุงไทย แต่ถามว่าบางคนอยู่อมก๋อย จะเดินทางมาอย่างไร ให้ลงเขาลงดอยมาลงทะเบียนหรืออย่างไร เหล่านี้ล้วนเป็นความคิดแบบไม่รอบด้าน เป็นการคิดจากหอคอยงาช้างของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่ลงพื้นที่น้อย แม้พบปะประชาชน ก็เป็นการจัดตั้ง”

จากนั้นอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ชี้แจงว่า สำหรับเหตุผลที่ไม่ให้เงินสด เพราะต้องการลดความแออัดของการใช้บริการตู้เอทีเอ็ม และลดการสัมผัสเงินสดในช่วงสถานการณ์โควิด-19 นอกจากนี้ รัฐบาลต้องการให้มีการใช้แพลตฟอร์มแทนเงินสด เป็นสังคมของการลดการใช้เงินสด

เท่าพิภพ ถามต่อว่า สำหรับโครงการ มาตรา 33 เรารักกัน ซึ่งผู้ที่มีเงินในบัญชีรวมกันเกิน 500,000 บาท จะไม่ได้รับสิทธิ์ หมายความว่ารัฐบาลมีสิทธิ์ดูยอดเงินในบัญชีของประชาชนได้ แต่ประชาชนไม่มีสิทธิ์ดูบัญชีทรัพย์สินของนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ใช่หรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำถามดังกล่าว เท่าพิภพ เห็นว่า รมว.คลัง ตอบไม่ตรงคำถาม จึงบอกว่า เห็น รมว.คลัง ไอบ่อย ขอให้รักษาสุขภาพ ซินเจียยู่อี่ซินนี้ฮวดไช้