พ.อ. หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนช์กับผู้บังคับหน่วยทั่วประเทศ โดยได้มีการรายงานผลภาพรวมปฏิบัติการล้างสิ่งปนเปื้อนลดเชื้อโรคป้องกันไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ กทม.และจังหวัดต่างๆ ซึ่งหน่วยทหารของกองทัพบก ได้เข้าดำเนินการตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยง พื้นที่สาธารณะที่มีประชาชนไปใช้บริการหนาแน่น รวมถึงสถานที่ตามการร้องขอ โดยในส่วนพื้นที่ของ กทม.ดำเนินการได้ถึง 2,331,616 ตารางเมตร สามารถลดการสะสมของเชื้อโรคและทำพื้นที่ให้ปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง
ขณะนี้ ประชาชนมีความมั่นใจและเห็นถึงความสำคัญของการรักษาความสะอาดพื้นที่ของตน ประกอบกับภาคส่วนต่างๆ มีขีดความสามารถในการชำระล้างฆ่าเชื้อ ในช่วงต่อจากนี้ไปกองทัพบกจะได้นำชุดปฏิบัติการล้างสิ่งปนเปื้อนกลับเข้าไปดำเนินการ ณ พื้นที่ภายในค่ายและชุมชนทหาร ทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด หากหน่วยงานใดมีความจำเป็นจะขอรับการสนับสนุนปฏิบัติการล้างสิ่งปนเปื้อนจากกองทัพบก ก็สามารถติดต่อผ่านหน่วยทหารในแต่ละพื้นที่ได้ ทั้งนี้ความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญซึ่งทุกภาคส่วนจะต้องช่วยกันรักษาและดูแลพื้นที่ของตนเอง เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค และเสริมสร้างให้เกิดสุขอนามัยที่ดี
การประชุมในวันนี้ นอกจากผู้บัญชาการทหารบกจะกำชับให้หน่วยทหารดำรงความต่อเนื่องในมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมและมาตรการลดการสัมผัสเชื้อโรคในทุกกิจกรรมแล้ว ยังได้ให้คำแนะนำกับ ผู้บังคับหน่วยให้ศึกษาถึงผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยในทุกๆ มิติ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ พฤติกรรมการดำรงชีวิตและการอยู่ร่วมกันของสังคม พร้อมกับให้เตรียมการรองรับ โดยเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับการบริหารจัดการหน่วย การเสียสละเพื่อประชาชน ให้ใช้ช่วงเวลาจากนี้ไปในการพัฒนา ปรับปรุง กระบวนการบริหารจัดการทั้งปวงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ให้พร้อมที่จะยังคงเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส
สำหรับมาตรการให้กำลังพลกลับที่พักอาศัยก่อนเวลา 21.00 น. สนับสนุนนโยบาย "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" นั้น ผู้บัญชาการทหารบก ได้กำชับให้ดำรงความเข้มงวดและให้เพิ่มเติมการจัดตั้งจุดตรวจการผ่านเข้า – ออก ในที่พักอาศัยของทางราชการห้วง 20.00 - 21.00 น. พร้อมจัดชุดสายตรวจกำกับดูแลให้เป็นไปตามแนวทางข้างต้น นอกจากนี้ให้จัดทำคู่มือคำแนะนำสำหรับหน่วยทหาร เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการซักถามและการสอบสวนโรคที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทำให้สามารถรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นและข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องให้กับทีมแพทย์ได้อย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการทหารบก มีความห่วงใยในบางพื้นที่ที่มีจำนวนของผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ล่าสุดคือที่ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้มอบให้แม่ทัพภาคที่ 4 ประสานการสนับสนุนกับทางจังหวัดและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยดูแลให้มาตรการป้องกันต่างๆ ของภาครัฐได้ขับเคลื่อนไปภายใต้ความร่วมมือของประชาชนและนักท่องเที่ยว เพื่อมิให้การติดเชื้อขยายวงกว้างออกไปอีก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง