ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ่อขยะ บ้านห้วยทรายเหนือ หมู่ที่ 14 ต.บ้านดุง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เพื่อตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวหลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า บ่อขยะนั้นส่งกลิ่นเหม็น แมลงวันเยอะ หนำซ้ำน้ำที่ซึมจากบ่อขยะก็ได้ไหลลงห้วยหินก่อนจะไหลลงลำน้ำพองเป็นระยะเวลานานกว่า 30 ปี
โดยพื้นที่บ่อขยะเป็นพื้นที่ขนาด 13 ไร่เศษ ใช้การกำจัดขยะโดยวิธีการฝังกลบ ทำให้ขยะนั้นกลบทับสูงกว่า 8 เมตร จากพื้นที่ปกติ ซึ่งถ้าเกิดระยะเวลานั้นผ่านไปนานกว่านี้อาจจะทำให้กองขยะที่ใช้การฝังกลบนั้นมีขนาดที่สูงขึ้นอีกเรื่อยๆ ซึ่งบริเวณท้ายบ่อขยะก็มีน้ำที่ซึมจากกองขยะไหลตามทางก่อนจะลงสู่ห้วยหิน และไหลไปรวมกับลำน้ำพอง ทำให้ชาวบ้านบริเวณโดยรอบไม่กล้าที่จะน้ำบาดาล และน้ำประปาผิวดินเพราะเกรงว่าน้ำที่นำขึ้นมาใช้นั้นไม่สะอาด และขณะที่นั่งรับประทานอาหารก็มีเมลงวันมาตอมจนต้องได้กางมุ้งขณะรับประทานอาหาร ร้านค้า และรีสอร์ทต่างพากันย้ายหนีจากสถานที่ดังกล่าว
ชาวบ้านห้วยทรายเหนือ หมู่ 14 และบ้านห้วยทราย หมู่ 7 ได้เรียกประชุมลูกบ้านเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว จึงได้ทำหนังสือยื่นต่อทางเทศบาลเขื่อนอุบลรัตน์ว่า ชาวบ้านเดือดร้อนจากการที่เทศบาลเขื่อนอุบลรัตน์ นำขยะมาทิ้งที่บ่อ ผ่านมาระยะเวลากว่า 30 ปี ก็ยังไม่มีการแก้ไขจากหน่วยงานใด ชาวบ้านจึงตั้งข้อสังเหตุว่า อบต.บ้างดง สามารถนำขยะไปทิ้งจุดอื่นและมีการคัดแยกอย่างดีได้ แต่ทำไมทางเทศบาลเขื่อนอุบลรัตน์ จึงนำขยะมาทิ้งบริเวณบ่อขยะแห่งนี้
สมพงษ์ อรรคหาต อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้านห้วยทรายเหนือ หมู่ 14 เล่าว่า บ่อขยะดังกล่าวได้สร้างสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีให้กับชุมชน ไม่ว่าจะผลิตน้ำประปาผิวดิน หรือบาดาล จึงคิดว่า บ่อขยะบ่อนี้อาจจะซึมไปถึงน้ำประปาบาดาลก็ได้เนื่องจากระยะเวลาที่บ่อขยะแห่งนี้เริ่มทำมานั้นนานกว่า 30 ปี และอยากให้นำขยะออกจากพื้นที่และหาสถานที่ทำบ่อขยะเป็นสถานที่อื่น ชาวบ้านของทั้งสองหมู่บ้านก็จะเฝ้ายามเช่นนี้เรื่อยๆ จนกว่าจะมีการแก้ไข และไม่ให้นำขยะเข้ามาทิ้งภายในบ่อขยะแห่งนี้อีก
หลังจากที่ชาวบ้านทำหนังสือยื่นหน่วยงานต่างๆ มีทางเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมออกมาหลายครั้ง แต่ปัจจุบันก็ยังไม่มีการแก้ไข ถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด งานบุญที่มีจัดขึ้นในหมู่บ้านแมลงวันก็มาตอมเต็มไปหมด สุนัขจรจัดที่มาหากินในบ่อขยะก็มีจำนวนเยอะมาก ร้านค้า รีสอร์ต ก็ได้รับความเดือดร้อนจนได้ย้ายหนี จึงได้ตัดสินใจกันว่าจะปักหลักเฝ้ายามอยู่ที่บริเวณหน้าบ่อขยะแห่งนี้เรื่อยๆ จนกว่าทางเทศบาลตำบลเขื่อนอุบลรัตน์นั้นแก้ไขปัญหานี้ได้