ไม่พบผลการค้นหา
'ส.ว.สมชาย' แฉมือล็อบบี้แจกกล้วย ส.ว. โหวต 'พิธา' ให้มัดจำ 7 ถ้าสำเร็จเพิ่ม 15 หวี ย้ำไม่มีใครรับสินบน เปรียบเหมือนขายชาติ

วันที่ 12 ก.ค. ที่อาคารรัฐสภา สมชาย แสวงการ ส.ว กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งคำร้อง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ถือครองหุ้นสื่อไอทีวี ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จะสามารถเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่

สมชาย กล่ววว่า ในในที่ประชุม ส.ว. มีการพูดคุยกันแค่เรื่องเวลาที่ได้รับจัดสรรให้อภิปรายในสภาว่า ส.ว. ได้เวลากี่ชั่วโมง ส่วนประเด็นที่ กกต. ส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตนคิดว่าต้องรอศาลรัฐธรรมนูญ คาดว่าน่าจะใช้เวลาถึงสัปดาห์หน้า ซึ่ง พิธา ยังสามารถมาแสดงวิสัยทัศน์ได้ ไม่เหมือนกับกรณีของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ 

เมื่อถามว่าการที่ กกต. ยื่นเรื่องในวันนี้ มีผลต่อการตัดสินใจเลือก พิธา ของ ส.ว. หรือไม่ สมชาย ระบุว่า เป็นเรื่องปกติ ที่จริงควรทำตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งทำวันนี้ เนื่องจากมีผู้ร้องตั้งแต่ พิธา ยังเป็นผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์เดียวกับที่ ธนาธร ถูกยื่น ซึ่งตนก็เคยถูกยื่นในอดีต มีคำวินิจฉัยมาถึง 4 คดีแล้ว ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร ทั้งนี้ ต้องแล้วแต่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ย้ำว่า ไม่ใช่เรื่องเกมการเมือง เนื่องจากไม่มีใครเอาหุ้นไปให้ พิธาถือ พิธา เป็นคนถือเอง เหมือนที่ตนก็เคยถือ และศาลมีคำวินิจฉัย

“ไม่มีนิติสงครามใดๆ อย่างที่เขาพูดกัน ทำอะไรก็ให้ศาลวินิจฉัย แล้วศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถึงที่สุด อย่าไปกังวลอะไร”

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ ส.ว. เคยออกมาบอกว่าจะพิจารณา ไม่เลือกคนที่มีประวัติ มีคดี โดยจะมีผลต่อการโหวต สมชาย กล่าวว่า ก็แล้วแต่คน ในการวินิจฉัย ตนไปก้าวล่วงไม่ได้ แต่จะดูในหลักการว่าสิ่งที่นายพิธาต้องมี 4 ข้อ คือ มีความซื่อสัตย์ สุจริตหรือไม่ มีวิสัยทัศน์หรือไม่ มีความรอบรู้หรือไม่ และสามารถสร้างแรงบันดาลใจได้หรือไม่ ส่วนหลักการสำคัญในการเป็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็เคยพูดแล้วว่าต้องดูความมั่นคงของประเทศ ซึ่งไม่ใช่ความมั่นคงทางทหาร แต่คือความเป็นชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 

“เราเคยทักท้วงว่า หลายเรื่องเป็นการขับเครื่องบินชนเพดาน อะไรที่มันสุดโต่งก็ขอให้ลดเพดานลง นโยบายบางเรื่องอาจจะเป็นการพลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน ต้องรอฟังแถลงว่าเขาจะเพดานได้หรือไม่ ไม่ใช่เฉพาะแค่มาตรา 112 เราเห็นอยู่แล้วว่า เขียนจนกระทั่งโทษต่ำกว่าคดีหมิ่นประมาทชาวบ้านทั่วไปอีก ในฐานะประมุขของประเทศ ไม่มีประมุขประเทศไทย ไม่มีกฎหมายคุ้มกัน ยิ่งพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย ตกลงกันตั้งแต่ปี 2475 แล้วยิ่งไปเขียนแบบนั้นไม่ได้”

สมชาย ยังเผยว่า ตนได้รับข้อความมาสองวันแล้ว จากผู้ใหญ่ในแวดวงการเมือง เตือนให้ระมัดระวัง ว่ามีขบวนการที่พยายามจากพรรคก้าวไกล ซึ่งตนคิดว่า พิธา และแกนนำพรรค อาจไม่เห็นด้วยที่มีผลประโยชน์ มีการติดต่อทาบทามให้ได้ผลประโยชน์จากการเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล แต่กรณีที่ ส.ว บาวคนออกมาเปิดเผยว่า ถูกทาบทามไม่ให้โหวต พิธา เรื่องนี้ตนไม่ได้ข่าว มองว่าเป็นตรรกะที่ประหลาด ไม่น่าเป็นไปได้

“ผมถามว่าแบบนี้ใครได้ประโยชน์ ไม่น่าเป็นไปได้ แต่ถ้าจะโหวตให้คุณพิธา ผมก็ไม่เชื่อว่าคุณพิธาจะทำได้ แต่อาจมีกลุ่มไม่หวังดี พยายามทำให้วุ่นวาย ถามว่ามีหรือไม่ ก็เรียนตรง ๆ ว่ามีข้อมูลที่สมาชิกมาเล่าให้ฟัง”

สมชาย กล่าวต่อว่า ตนเชื่อมั่นใน ส.ว. 250 คนที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ มาจากการสรรหา ว่าจะปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่มีเรื่องอามิสสินจ้าง ไม่รับสินบนใด ๆ ใครจะปฏิเสธจริงจังหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่ยืนยันว่า ส.ว. ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะไปรับผลประโยชน์แบบนี้ ถ้าไปทำเช่นนั้นเป็นการขายชาติ สาเหตุที่ออกมาเปิดเผยขบวนการข้างต้น เพราะเชื่อว่ามีกลุ่มที่ไม่หวังดี 

"บอกได้คร่าว ๆ ว่า 7+15 กล้วย 7 หวีมัดจำ ถ้าสำเร็จได้ 15 หวี จริงเท็จไม่ทราบ แต่ตัวเลขที่ส่งมาเท่าที่เห็นก็มี 30 - 50 อยู่ ผมก็ยังไม่เชื่อว่าจะมีใครทำ เพราะอาชญากรรมทิ้งร่องรอย"

เมื่อถามว่าภาพลักษณ์ของ ส.ว. ที่ออกมา มีคนบอกว่ามีการวิ่งเต้นจากหลายฝั่ง สมชาย กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจากมีคนอยากได้เสียง ก็มีทั้งไปพบที่บ้าน ติดต่อทางโทรศัพท์ ขอพบผ่านครอบครัว คนสนิท แม้แต่งานศพก็ยังไปล็อบบี้ ยังมีการใช้วิธีแบบเดิม ใช้มวลชน บวกกับสื่อออนไลน์ ตนคิดว่าเรื่องนี้ ส.ว. ก็คงทำตามหน้าที่ ตามภาระตัวเอง อดทนหนักแน่น ไม่หวั่นไหวใด ๆ ทั้งสิ้น อาจจะยากลำบากหน่อย แต่ก็มีประชาชนมอบคะแนนเสียงให้ ส.ว. ลงประชามติ 15 ล้านเสียง ถ้าปิดสวิตซ์ได้คงปิดสวิตซ์ตัวเองไปแล้ว