วันที่ 22 เม.ย. 2566 ที่โรงเรียนวิทยานุกูลนารี อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เศรษฐา ทวีสิน ประธานคณะที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีได้ประกาศบนเวทีปราศรัย จ.เลย เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2566 ว่าจะไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า เป็นความตั้งใจของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้วว่าต้องการจะเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวให้แลนด์สไลด์ เมื่อถามว่าการประกาศของเศรษฐาเป็นมติที่ชัดเจนสอดคล้องกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ เศรษฐา ระบุว่า แพทองธาร ก็เห็นด้วยกับการประกาศเช่นนี้ ซึ่งต่างคนต่างเดินไปไม่มีใครท้วงติงในพรรคด้วย
ถามว่า เศรษฐาประกาศจุดยืนช้าไปหรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า ตนพููดมาตลอด จุดยืนไม่ได้ย้อนแย้ง พรรคเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวมาโดยตลอด ถ้าเกิดสมมติได้เสียงน้อยกว่าที่ตั้งไว้ ก็จะไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่มีจุดยืนเดียวกัน ณ วันนี้เราเดินหน้าเต็มที่เผยแพร่นโยบายให้กับประชาชนต่อไป เพื่อเป็นรัฐบาลพรรคเดียว
ถามว่า การประกาศไม่จับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐจะเป็นการดึงคะแนนเสียงจากกลุ่มคนที่ยังไม่มีความชัดเจนกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เศรษฐา ระบุว่า ความตั้งใจของคนไทยคือการพูดความจริง ถึงยังไงพรรคก็น้อมรับ ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยมีความชัดเจนอยู่แล้ว เพราะพรรคเพื่อไทยแข่งที่นโยบาย และแข่งกันที่ลบล้างความยากจน
เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐบอกว่าพรรคเพื่อไทยไม่จับมือก็ไม่เป็นไร เศรษฐา กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไรเพราะพล.อ.ประวิตรก็มีจุดยืนของท่านอยู่แล้ว และพล.อ.ประวิตรก็มีนโยบายของท่านจะต้องเดินสายเผยแพร่ ดังนั้น เราสู้กันด้วยนโยบาย เราสู้ด้วยว่าใครจะลบล้างความยากจนของพี่น้องประชาชนได้ดีกว่ากัน
ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเสนอเรื่องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขออนุมัติงบประมาณมาแก้ปัญหาราคาไฟฟ้าแพงนั้น เศรษฐา ระบุว่า ตนคิดว่าเรื่องความสง่างามในสังคมไทยก็คงต้องมีกันบ้าง ประชาชนกำลังเดือดร้อนค่าไฟฟ้าค่าพลังงานกันมานานแล้ว และท่านก็เป็นรัฐบาลมานาน ตนเชื่อว่าพี่น้องประชาชนจะตัดสินใจได้ว่าอะไรมีความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม
ทั้งนี้ตนเองไม่อยากวิจารณ์การทำงานของพรรคการเมืองอื่น ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็มีวิธีการเดินหน้าของเรา ส่วนตนก็ไม่ได้มีความขัดแย้งกับ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะจุดยืนของพรรคเพื่อไทยนั้นจะขจัดความยากจนขจัดความไม่เสมอภาคและความไม่เท่าเทียม ส่วนกรณีที่กกต.จะอนุมัติงบประมาณให้กับรัฐบาลแก้ปัญหาราคาไฟฟ้าแพงนั้น ตนก็ขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน แต่นโยบายของพรรคเพื่อไทยนั้นจะดูระยะยาวเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับอนาคตของลูกหลาน อยู่ที่ประชาชนจะเห็นด้วยกับนโยบายของใครมากกว่ากัน
“พรรคเพื่อไทย มั่นใจอย่างยิ่งในนโยบายทางเศรษฐกิจระยะยาว รวมทั้งนโยบายทางด้านสังคมมั่นใจพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าต่อไป” เศรษฐา ระบุ
ถามว่า พื้นที่ จ.เพชรบูรณ์นั้นก็เป็นพื้นที่ของ สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เศรษฐา กล่าวว่า ทำไมประชาชนยังเดือดร้อนอยู่ ในเมื่อเป็นรัฐบาลมา 4 ปีแล้ว และจากการรับฟังเสียงของพี่น้องประชาชนก็มีความชัดเจนว่าพวกเขายังไม่มีความสุข ถ้ามีความสุขก็เข้าคูหากาพรรคเพื่อไทย ส่วนระยะเวลาการหาเสียงที่เหลืออยู่นั้นตนมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ เดินมาถูกต้องพบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชน และผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ก็พร้อมที่จะเผยแพร่ และขยายนโยบายของพรรคเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่ เศรษฐา กำลังยืนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอยู่นั้นมีประชาชนที่มารับฟังการปราศรัยได้ส่งเสียงตะโกนเรียกนายกรัฐมนตรีซึ่งทำให้ เศรษฐาออกอาการเขินและยิ้มให้กับประชาชน