ไม่พบผลการค้นหา
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย ภารกิจนายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่เหนือ-กลาง-อีสาน ติดตามงานตามนโยบายรัฐบาลและร่วมประชุม ครม. สัญจร ตั้งแต่ 15 – 31 ส.ค. นี้

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการตรวจราชการเหนือ-กลาง-อีสาน ระหว่างวันที่ 15 - 19 สิงหาคม 2567 และประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 20 สิงหาคม 2567 จากนั้นลงพื้นที่ต่อเนื่องตั้งแต่ 21- 31 สิงหาคม 2567 เพื่อติดตามงานตามนโยบายรัฐบาล

วันที่ 15 - 16 สิงหาคม 2567 นายกฯเศรษฐา จะเดินทางไปร่วมประชุมแม่โขงลานช้าง ณ จังหวัดเชียงใหม่ 

วันที่ 17 สิงหาคม 2567 นายกฯเศรษฐา จะเดินทางไปจังหวัดปทุมธานี นครนายก และสระบุรี เพื่อติดตามเรื่องการท่องเที่ยว 

วันที่ 18 สิงหาคม 2567 นายกฯเศรษฐา จะเดินทางไปจังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี และอ่างทอง เพื่อติดตามแผนการระบายน้ำรับมือกับฤดูน้ำหลากที่กำลังจะมาถึง

วันที่ 19 สิงหาคม 2567 นายกฯเศรษฐา จะเดินทางไปอำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เพื่อดูพนังกั้นน้ำและคลองแม่น้ำ บางไทร-บางบาล ในการผันน้ำออกสู่ทะเล รวมทั้งดูแก้มลิงในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริเวณสี่แยกมิยาซาวา และดูนิคมอุตสาหกรรมที่เคยได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเมื่อ ปี 2554 และ ปี 2565 

วันที่ 20 สิงหาคม 2567 นายกฯเศรษฐา ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 

วันที่ 21 สิงหาคม 2567 นายกฯเศรษฐา จะเดินทางไปอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาแนวชายแดน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติดและปัญหาความมั่นคง

วันที่ 22 สิงหาคม 2567 นายกฯเศรษฐา จะเดินทางไปจังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดน และการค้าระหว่างประเทศ จากนั้น 

วันที่ 23 สิงหาคม 2567 นายกฯเศรษฐา จะเดินทางไปยังจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามแก้ไขปัญหา PM2.5 และเร่งรัดการรับมือการท่องเที่ยวในช่วง High Season ที่กำลังจะมาถึง 

วันที่ 31 สิงหาคม 2567 นายกฯเศรษฐา จะเดินทางไปจังหวัดนครพนม และบึงกาฬ เพื่อติดตามการค้าชายแดน ปัญหายาเสพติดปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อีสานตอนบน

“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานต่างๆ ตามนโยบายรัฐบาล และที่ได้สั่งการและมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขับเคลื่อนงานต่างๆ รวมทั้งยังเป็นการติดตามงานด้วยตนเอง ในทุกประเด็น การท่องเที่ยว การบริหารจัดการน้ำ แก้ไขปัญหา PM 2.5 รวมทั้งการปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ ปัญหายาเสพติดและการค้าระหว่างประเทศ และปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่ด้วย” นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว