วันที่ 24 ก.พ. ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดประชุมสภาฯ นัดพิเศษในวันที่ 28 ก.พ.นี้ เพื่อพิจารณาร่างพระราชกำหนด (พรก.) แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย โดย นพ.ชลน่าน ยืนยันว่า ฝ่ายค้านพร้อมร่วมเป็นองค์ประชุม และรัฐบาลไม่ต้องกังวลว่าฝ่ายค้านจะทำองค์ประชุมล่ม แต่ต้องถามกลับไปยังรัฐบาลเรื่องขององค์ประชุม เพราะเสียงข้างมากอยู่ที่ฝ่ายรัฐบาล
ส่วนการลงมติ พรรคร่วมฝ่ายค้านย้ำจุดยืนชัดเจน คือไม่เห็นด้วยกับ พรก.ดังกล่าว เพราะการออก พรก.นี้ ไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 172 แห่งรัฐธรรมนูญ ที่จะต้องเข้าเงื่อนไข 4 เรื่องคือ ความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยของสาธารณะ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และภัยพิบัติ แต่รัฐบาลอ้างถึงความไม่พร้อมเรื่องการใช้อุปกรณ์ ทั้งที่ในชั้นกรรมาธิการฯ หน่วยงานที่ต้องปฏิบัติยืนยันว่า มีความพร้อม และได้มีการทิ้งระยะเวลาการบังคับใช้กฎหมาย 120 วัน จึงเห็นได้ว่าพฤติกรรมของรัฐบาลชุดนี้เป็นการจงใจใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า กระบวนการตรากฎหมาย ต้องส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณา แต่วุฒิสภาจะหมดสมัยประชุมในวันที่ 28 ก.พ. จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องขอเปิดสมัยประชุมวิสามัญเพื่อให้ส.ว.ได้พิจารณา หากรัฐบาลไม่เปิด ก็มีความสุ่มเสี่ยงที่จะขัดต่อรัฐธรรมนูญ และจะมีผู้ไปร้องศาลรัฐธรรมนูญตีความแน่นอน
นพ.ชลน่าน ยังกล่าวว่า หาก ส.ส.ซีกรัฐบาลมีทีท่าจะผ่านความเห็นชอบร่าง พรก. ฉบับนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นเรื่องจะยื่นรวมรายชื่อต่อประธานสภาฯ ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยทันที ก่อนที่จะมีการลงมติ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า รัฐบาลออก พรก. ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พรก.ดังกล่าว ไม่ชอบด้วยกฏหมาย ก็จะทำให้ พ.ร.บ.ป้องกันซ้อมทรมาน-อุ้มหาย มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา