ไม่พบผลการค้นหา
'อรรถวิชช์' ลุยหาเสียงตลาดริมบึงเมืองทอง เน้น สร้างความเข้าใจภาษีคนละครึ่งเพื่อลดภาระพ่อค้า-แม่ค้า แนะรัฐนำเข้าเนื้อหมูระยะสั้นแก้หมูแพง ขอ กกต.จับตาการซื้อเสียงในพื้นที่ ปลื้มคนเข้าใจพรรคกล้าไม่ใช่ ปชป.สาขาสอง

อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้าและผู้สมัคร ส.ส. หลักสี่-จตุจักร เบอร์ 2 ลงพื้นที่หาเสียงตลาดริมบึงเมืองทองโดยมีพ่อค้า แม่ค้า ชาวบ้านในพื้นที่ให้ความสนใจร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนนโยบายด้านเศรษฐกิจตลอดเส้นทาง 

โดยอรรถวิชช์กล่าวว่าการลงพื้นที่ตลาดแต่ละครั้ง จะคุยกับช่างบ้านเรื่องเศรษฐกิจและ เล่าเรื่องคนละครึ่ง เนื่องจากพรรคกล้าเป็นพรรคด้านเศรษฐกิจ เห็นด้วยกับโครงการคนละครึ่งและเชื่อในเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเฉพาะเรื่องภาษีที่จะจ่ายปลายเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งที่ผ่านมา คนที่เข้าโครงการจะเจอปัญหาจากระบบเหมาจ่ายภาษี เพราะไม่ได้แสดงบิล กรมสรรพากรจึงคำนวนเป็นค่าใช้จ่าย 60% ตนจึงพยายามบอกให้เก็บบิลไว้ เพราะสามารถใช้จ่ายตามจริงได้ จะช่วยลดภาระการจ่ายภาษีได้หลักหมื่นบาท เนื่องจากเวลาซื้อของมาขายในโครงการคนละครึ่งจะเห็นแต่ราคาขาย ไม่เห็นราคาซื้อ หากเก็บบิลไว้ก็จะคำนวณต้นทุนได้ ทุกครั้งที่ตนลงพื้นที่ก็จะสอนให้ทำภาษีด้วย

ส่วนเรื่องราคาสินค้าอุปโภคแพง โดยเฉพาะราคาหมู อรรถวิชช์กล่าวว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องแก้ไข โดยอาจมีการนำเข้าหมูในระยะสั้น แต่ต้องไม่กระทบเกษตรกรรายย่อย และขณะนี้ไม่ใช่แค่หมูที่ราคาแพง ยังลุกลามไปถึงสินค้าอื่น จากการลงพื้นที่หลายร้านยอมกำไรลดลงจากการขายอาหารสำเร็จรูป แต่เชื่อว่าอยู่ได้ไม่นาน หากราคาหมูเป็นแบบนี้จึงอยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไข 

ส่วนการแก้ปัญหาราคาล็อตเตอรี่แพงหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายรัฐมนตรีตั้งคณะทำงานขึ้นมาแก้ปัญหา อรรถวิชช์ระบุว่าจากการลงพื้นที่ตรวจตลาดเอง เจอหลากหลาย จึงอยากให้กองสลากคุมราคาให้ดีกว่านี้ ทั้งนี้ได้ปฏิเสธตอบคำถามกรณีมีกระแสข่าวว่าจะเก็บค่าเหยียบแผ่นดินจากชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย 

ส่วนการปราศรัยของพรรคกล้า นอกจากเวทีย่อยในวันที่ 28 มกรารม 2565 แล้ว พรรคมีเวทีย่อยปราศรัยทุกวันระหว่างลงพื้นที่หาเสียง โดยเน้นพูดเรื่องเศรษฐกิจ ให้ความรู้เศรษฐกิจฐานราก ส่วนช่วงเย็นก็เน้นสำรวจทางน้ำ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมและการจัดการน้ำในเขตหลักสี่-จตุจักร 

ทั้งนี้การลงพื้นที่ตลอด 2สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าประชาชนให้การตอบรับดีขึ้น ในเขตจตุจักรมีความคุ้นชินกันดีอยู่แล้ว ส่วนเขตหลักสี่คนเริ่มเปิดใจให้มากขึ้น และเริ่มเข้าใจว่าพรรคกล้าไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์สาขาสอง ส่วนการหาเสียงในกลุ่มหมู่บ้าน-คอนโด ก็ตอบรับดีมาก หลายคนดีใจที่ตนกลับมาลงสมัคร แม้มีเวลาหาเสียงน้อยแต่จะพยายามไปให้ครบทุกที่ 

อรรถวิชช์ยังฝาก กกต. ให้รณรงค์เรื่องการซื้อเสียง และให้คนออกมาใช้สิทธิ์เยอะๆ เช่นเดียวกับการเลือกตั้งซ่อมในจังหวัดชุมพร และสงขลา ที่ขอให้ประชาชนออกมา ใช้สิทธิ์เยอะๆ โดยพรรคกล้าเป็นเวทีคนคุณภาพ ตัวจริงในแต่ละสาขา หากอยากเห็นภาคใต้เปลี่ยน ไม่ใช่การเมืองแบบครอบครัว เครือญาติ ขอให้เปิดใจ จะเปลี่ยนได้หรือไม่อยู่ในมือของทุกคน

ทั้งนี้ ระหว่างลงพื้นที่หาเสียง ได้พบกับขบวนหาเสียงของรุ่งโรจน์ อิบรอฮีม ผู้สมัครจากพรรคไทยศิวิไลย์ ซึ่งทั้งสองพรรคได้ทักทายกันก่อนแยกย้ายกันหาเสียงในตลาด