จากการพิจารณาคดีของศาล ในการชันสูตรศพเซาท์วาร์ก ณ กรุงลอนดอนยืนยันว่า สตีเฟน ไรท์ แพทย์วัย 32 ปี นักจิตวิทยาคลินิกของ NHS และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขด่านหน้าของสหราชอาณาจักร ได้รับความทุกข์ทรมานจากอาการต่างๆ รวมกันอย่างอาการก้านสมองตายจากการขาดเลือด เลือดออกในสมอง และลิ่มเลือดอุดตันที่เกิดจากวัคซีนโควิด-19
ไรท์เป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรกสุด ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า และเสียชีวิตหลังจากได้รับวัคซีนดังกล่าวเป็นเวลา 10 วัน ทั้งนี้ แอนดรูว์ แฮร์ริส เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพกล่าวว่า คดีในครั้งนี้เป็น "คดีที่ไม่ธรรมดาและน่าสลดใจอย่างสุดซึ้ง" แต่เขาตั้งข้อสังเกตว่า บทสรุปของการสอบสวนไม่ได้เป็นการ "กล่าวโทษต่อแอสตร้าเซเนก้า"
ในขณะนี้ หน่วยงานกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ (MHRA) ของสหราชอาณาจักร กำลังตรวจสอบคนกลุ่มเล็กๆ ที่มีปฏิกิริยารุนแรงต่อการรับวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซเนก้า เพื่อทำความเข้าใจว่าอะไรเป็นสาเหตุของอาการดังกล่าว แม้ว่าจะยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร อันเป็นผลจากผลการวิจัยดังกล่าว
ศาลสหราชอาณาจักรรับฟังว่า ไรท์ตื่นขึ้นด้วยอาการปวดศีรษะในวันที่ 25 ม.ค. และมีอาการชาในเวลาต่อมา ทั้งนี้ เขาถูกส่งตัวเข้าแผนกฉุกเฉินที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยราชกุมารี ในเมืองออร์พิงตันของมณฑลเคนต์ โดยไรท์ถูกตรวจพบมีอาการโรคความดันโลหิตสูง และภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำสมอง ทั้งนี้ แฮร์ริสกล่าวว่า ต่อมาไรท์ถูกย้ายไปที่โรงพยาบาลคิงส์คอลเลจ ซึ่งอาการของเขาทรุดลงอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากเขามีเลือดออกมากและเกล็ดเลือดต่ำมาก จึงส่งผลให้ไรท์ไม่สามารถรับการผ่าตัดได้
หลังจากการไต่สวนของชั้นศาล ชาร์ล็อตต์ ภรรยาหม้ายของไรท์กล่าวว่า เธอกำลังพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายกับแอสตร้าเซเนก้าและรัฐบาล โดยเธอระบุว่าเธอจดจำไรท์ในฐานะ "สามีที่น่าทึ่งที่สุด" และเป็นพ่อที่ดีของลูกๆ และบอกว่าเธอรู้สึกโล่งใจที่มีข้อสรุป "อันชี้ขาด" ต่อการตายของสามีของเธอ
ฟรานเชสโก เวอร์กานี ศัลยแพทย์ระบบประสาท ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ให้การกับศาลว่า ไม่มีวิธีใดที่สามารถทำเพื่อช่วยชีวิตไรท์ได้ โดยเวอร์กานีกล่าวว่า เกล็ดเลือดเป็นการตอบสนองแรกของร่างกายในการพยายามห้ามเลือด และมีความสำคัญต่อการแข็งตัวของเลือด ซึ่งหมายความว่าเมื่อเกล็ดเลือดลดต่ำลงอย่างมาก การผ่าตัดจะทำได้ไม่สำเร็จ
มาร์ค ฮาวเวิร์ด ที่ปรึกษาพยาธิแพทย์และผู้ตรวจสอบทางการแพทย์ของโรงพยาบาลคิงส์คอลเลจ กล่าวว่า นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ไม่ทราบถึงผลข้างเคียงที่อาจถึงตายได้ของวัคซีนดังกล่าว โดยเมื่อไรท์ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซเนก้าในช่วงแรกๆ แม้จะอยู่ในช่วงการทดลองระยะท้ายๆ อาการข้างเคียงจากวัคซีนจะไม่มีทางถูกทำนาย "ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได่ยากและไม่ได้ตั้งใจ" นี้ได้
ฮาวเวิร์ดกล่าวว่า “สตีเฟน (ไรท์) เป็นชายหนุ่มที่แข็งแรงและมีสุขภาพดีมากในเดือน ม.ค. 2564 มันเป็นภาวะแทรกซ้อนที่น่าเศร้า และหายากมากของการฉีดวัคซีนที่ตั้งใจดี มันไม่สามารถเป็นที่เข้าใจว่าทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น มันเป็นปฏิกิริยาที่แปลกประหลาด สถานการณ์นี้เกิดขึ้นในคนจำนวนน้อยมาก”
โฆษกของแอสตร้าเซเนก้ากล่าวว่า "เรารู้สึกเสียใจอย่างมากกับการเสียชีวิตของ สตีเฟน ไรท์ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของเขา สำหรับการสูญเสียของพวกเขา ความปลอดภัยของผู้ป่วยถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดของเรา และหน่วยงานกำกับดูแลมีมาตรฐานที่ชัดเจนและเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจถึงการใช้ยาทั้งหมดอย่างปลอดภัย รวมถึงวัคซีน”
ที่มา: