ไม่พบผลการค้นหา
'พิธา' ยังไม่ตัดสินใจฟ้องกลับ ปมหุ้นไอทีวี เผยรอ กกต. เรียกก่อนค่อยว่ากัน

วันที่ 14 มิ.ย. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ระหว่างการลงพื้นที่ขอบคุณประชาชนที่ จ.ลำปาง ลำพูน ได้กล่าวถึงกรณีหุ้นไอทีวี จะมีการฟ้องกลับใครหรือไม่ โดยระบุว่า คณะทำงานกฎหมายของพรรครวบรวมข้อมูลมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่ปรากฏหรือไม่ปรากฏอยู่ในหน้าสื่อก็ตาม ที่มีผู้หวังดีส่งมาให้เรื่อยๆ ก็ได้รวบรวมไว้

ส่วนจะดำเนินคดีหรือไม่ ยังไม่ได้เป็นปัจจัย ที่ตัดสินใจในตอนนี้ แต่มีการสะสมข้อมูลที่ไม่ชอบมาพากลอยู่เรื่อยๆ แล้วค่อยตัดสินใจอีกครั้ง ทั้งนี้ย้ำว่า ไม่ได้กังวลใจการเรื่องคดี ถ้าการตัดสินเป็นไปอย่างเที่ยงธรรมตามหลักฎีกา ไม่ว่าจะเป็นศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกาและศาลอาญา ตนมั่นใจว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างแน่นอน

ส่วนกรณีที่ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาขิกพรรคพลังประชารัฐ ไปยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม กรณีหุ้นไอทีวีกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยระบุว่า การโอนหุ้นเป็นการโอน ไม่ได้สละมรดกนั้น พิธา กล่าวว่า ข้อเท็จจริงต้องแยกกัน โอนก็คือโอน สละก็คือสละ และตามที่เคยให้สัมภาษณ์ไป ว่าไม่ใช่เป็นการขายหุ้น แต่เป็นการโอนหุ้น ส่วนเรื่องมรดกขอให้รอฟังอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในฐานะทายาท พิธา ยืนยันว่าเป็นการสละมรดกส่วนนี้หรือไม่ พิธา ตอบว่า ไม่ยืนยัน แต่ต้องไปพูดคุยกันอีกครั้ง เพราะการสละมรดกกับการโอนเป็นคนละเรื่องกัน แต่ที่ยืนยันได้ การโอนหรือการถือหุ้นไอทีวี ทำในฐานะผู้จัดการมรดก ไม่ใช่ทำในนามส่วนตัว

ส่วนกรณีที่ นิวัตไชย เกษมมงคล เลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่า พิธา ได้ยื่นเอกสารต่อป.ป.ช. กรณีการถือหุ้นไอทีวี โดยแนบเอกสารคำสั่งศาล ว่าเป็นผู้จัดการมรดกมานั้น พิธา ระบุว่า ตนเองยื่นเอกสารแล้วตามที่เลขา ป.ป.ช.ระบุ  

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ เลขา ป.ป.ช.ระบุถึงการตรวจสอบเอกสารไปที่ศาล แต่ศาลไม่มีต้นขั้วอยู่แล้วนั้น พิธามีต้นขั้วหรือไม่ พิธา ตอบว่า เป็นเอกสารที่แต่งตั้งให้ตนเองเป็นผู้จัดการมรดกตั้งแต่ปี 2550 ตอนนี้ล่วงเลยมา 16-17 ปีแล้ว อาจจะไม่มีเอกสารตรงนั้น แต่ถึงเวลาถ้าเป็นเอกสารที่ต้องพูดคุยกันก็รอให้ กกต.ขอมาก่อนดีกว่า ค่อยไปตอบกันในเรื่องนั้น 

ขณะที่กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ยังไม่รับรอง ส.ส.เป็นของก้าวไกล 7 คนนั้น พิธา ระบุว่า ขณะนี้ ยังไม่ทราบว่าถูกร้องเรียนประเด็นใดบ้าง ซึ่งได้ทราบข้อเท็จจริงจากสื่อมวลชนว่ายังไม่รับรอง ส.ส.จาก กกต. 71 คน เป็นของพรรคก้าวไกล 7 คน ซึ่งเป็นของพรรคร่วมทั้งหมด 30 คนอีก 41 คนเป็นของฝ่ายค้าน

ซึ่งของพรรคก้าวไกลยังไม่มีใครทราบเหตุผล เพราะสอบถามไปที่กกต.จังหวัดก็ยังไม่ทราบเหตุผลเช่นเดียวกัน คงต้องรอให้เป็นกระบวนการของ กกต.ว่าเกิดจากเรื่องใด และได้สอบถามเจ้าตัวไปก็ยังไม่มีใครทราบว่าเรื่องอะไร ทำให้ยังมีความสับสนอยู่เล็กน้อย ส่วนจะมีผลในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น มองว่า ไม่น่าจะมีเพราะเป็นฝั่งของก้าวไกล 30 คน เป็นฝั่งที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล 41 คน 

สำหรับการวางตัวผู้รับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร พิธา เผยว่า การพูดคุยกันภายในระหว่างพักก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย มีความคืบหน้าพอสมควร แต่ต้องรอฟังในจังหวะเวลาที่เหมาะสม คือช่วงเปิดสมัยประชุมสภาฯ