วันนี้ (15 พ.ค.) สำนักข่าวไทยรายงานว่า โรงพยาบาลศิริราช ได้ชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่โลกออนไลน์ตั้งแคมเปญล่ารายชื่อถอดร่าง "ซีอุย" ออกจากพิพิธภัณฑ์ศิริราช พร้อมอ้างว่าไม่ใช่มนุษย์กินคนอย่างที่หลายคนเข้าใจ ซึ่งขณะนี้ทางโรงพยาบาลอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลคำพิพากษาและข้อมูลการศึกษาร่างซีอุยของคณะแพทย์ และจะให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการโดยคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลเร็วๆ นี้

การรวบรวมข้อมูลดังกล่าวของทางโรงพยาบาลศิริราชเกิดภายหลังจากเว็บไซต์ change.org โดยผู้ใช้ชื่อ ฟาโรห์ จักรภัทรานน สร้างแคมเปญเพื่อร้องเรียนผู้บริหารพิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราช ว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะร่วมลงชื่อรณรงค์ให้พิพิธภัณฑ์ฯ ยุติการจัดแสดงร่างของซีอุย และคืนศักดิ์ศรีและความยุติธรรมให้กับชายคนนี้ด้วยการนำร่างของเขาไปประกอบพิธีทางศาสนา และลบล้างตราบาป "มนุษย์กินคน" ด้วยการเผยแพร่ความเข้าใจที่ถูกต้องในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีนี้ ขณะนี้มีผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนแล้ว 10,814 คน

โดยต่อมาเพจเฟซบุ๊ก Poetry of Bitch ได้สรุปข่าวการเรียกร้องนำร่าง "ซีอุย" ออกจากพิพิธภัณฑ์ฯ พร้อมคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ล้างฉายา "มนุษย์กินคน" นั้น เกิดจากมีคนทวีตรูปศพซีอุย พร้อมป้ายชื่อว่า "มนุษย์กินคน" จนทำไปสู่การพูดคุยเรื่องซีอุยตกเป็น "แพะรับบาป" ในคดีสังหารเด็ก 6 คน แล้วกินเครื่องใน ที่ อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งที่พยานหลักฐานหลายอย่างชี้ว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ 

ทำให้คาดว่าซีอุยตกเป็นจำเลยสังคม เพราะหนังสือพิมพ์ในยุคนั้นเผยแพร่ข่าวลือโดยขาดการกลั่นกรอง ประกอบกับซีอุยไม่มีญาติพี่น้อง และพูดไทยไม่ได้ จึงถูกเลือกเป็นแพะ อีกทั้งญาติของผู้ตาย คนในพื้นที่และนายจ้างของซีอุย ไม่มีใครเชื่อว่าเขาเป็นคนทำและช่วยกันยืนยันอย่างหนักแน่นมาตลอด แต่ไม่สามารถช่วยให้ซีอุยรอดพ้นความตายได้

นอกจากนี้โพสต์ดังกล่าวยังบอกด้วยว่า เหยื่อคนหนึ่งชื่อ ด.ญ.บังอร ที่รอดชีวิตมาได้ เห็นหน้าฆาตกรชัดเจน และบอกว่าคนทำคืออีกคนหนึ่งชื่อ "เกลี้ยง" ไม่ใช่ซีอุย แต่ซีอุยที่ถูกจับถูกหว่านล้อมให้ยอมรับ โดยหลอกว่าเรื่องจบแล้วจะส่งกลับบ้านที่เมืองจีน หลังถูกจับซีอุยร้องไห้อยากกลับไปหาครอบครัวทุกวัน จึงตอบตกลง แต่กลับถูกตัดสินประหารชีวิตแทนการกลับบ้าน

ทั้งนี้ต้นเรื่องของการถกเถียงเกิดจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ @ChangeSiam ทวีตภาพพร้อมข้อความว่า "ปัจจุบัน เค้ารู้กันหมดแล้วว่า "ซีอุย" ไม่ได้ฆ่าและกินเครื่องในมนุษย์ ซึ่งเกิดจาการใส่ร้าย แต่พิพิธภัณฑ์ที่ศิริราชก็ยังเอาศพของเขามาโชว์ และยังตราหน้าว่าเป็น "มนุษย์กินคน" แม้คนตาย ศพยังไม่ได้รับความยุติธรรม"

ซึ่งจากการเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ที่เกิดขึ้นนำมาซึ่งการชี้แจงจากทางโรงพยาบาลศิริราชข้างต้นว่ากำลังรวบรวมข้อมูล และให้รอข้อมูลอย่างเป็นทางการจากคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลต่อไป