นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า จากการประเมินสถานการณ์การติดเชื้อโควิด ไทยไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศ มาตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. จนถึงวันที่ 26 ส.ค. รวมกว่า 94 วัน
ซึ่งจะเห็นว่าการผ่านคลายมาตรการ และกิจกรรมเป็นไปด้วยดี แต่ต้องคงมาตรการต่างๆ ไว้อย่างเข้มข้น ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือ และสแกน 'ไทยชนะ' ทุกครั้งที่ออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน หรือเข้าพื้นที่ที่มีจำนวนผู้คนหนาแน่นเพื่อความปลอดภัย
ขณะนี้ทางภาครัฐมีแนวคิดจะสนับสนุนฟื้นฟูการเดินทางท่องเที่ยว เพื่อให้ธุรกิจและเศรษฐกิจ รายได้ในประเทศฟื้นตัว แต่จะยังเป็นการท่องเที่ยวแบบปิด มีการจำกัดและปลอดภัย เน้นในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ ระบาดน้อย เข้ามาใช้บริการการแพทย์ ท่องเที่ยว คาดว่าเริ่มในเดือน ต.ค.นี้
นพ.โสภณ กล่าวว่า สำหรับวันหยุดยาว 4 วัน ที่จะถึงในวันที่ 4-7 ก.ย.นี้ ขอให้ทุกคนอย่าละเลยการสวมหน้ากากอนามัยและในการเดินทางหากรู้ตัวมีไข้ หยุดอยู่บ้าน ไม่ออกเดินทาง
ส่วนเรื่องผลการตรวจหาซากเชื้อโควิด-19 ในหญิง 2 คน เดินทางกลับจากดูไบ และมาตรวจร่างกายที่ รพ.รามาธิบดี เพื่อต้องการไปทำงานต่างประเทศ ผลปรากฎพบเป็นซากเชื้อในร่างกาย 10% ในหญิงคนที่ 1 และ 20% ในหญิงคนที่ 2 ซึ่งเชื้อไม่สามารถแบ่งตัวได้ และแพทย์ให้กลับบ้านแล้วเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา
นพ.โสภณ กล่าวต่อไปว่า ได้เตรียมปรับเพิ่มการตรวจคัดกรองใน state quarantine จากตรวจหาสารคัดหลั่ง ด้วยวิธี RTPCR แล้ว เพิ่มการตรวจเลือดหาภูมิคุ้มกันในร่างกาย ว่าผู้เดินทางเข้าไทยแต่ละคน เคยมีประวัติการป่วยมาก่อนหรือไม่ หากเคยมีการป่วย ก็อาจมีการพิจารณาลดการอยู่ใน state quarantine ลดลงครึ่งหนึ่ง แต่อยู่ระหว่างการพิจารณาวันที่เหมาะสม