เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ก.ค. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา วาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. .... ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยการพิจารณาในวาระ 2 เป็นรายมาตรา ตามด้วยวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. .... ซึ่งกรรมาธิการฯ พิจารณาเสร็จแล้ว

อย่างไรก็ตาม ก่อนเริ่มเข้าสู่วาระการประชุม ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุม ได้ถามย้ำกับสมาชิกรัฐสภาว่า พร้อมจะประชุมต่อไปหรือไม่ ทำให้ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ชี้แจงต่อประธานฯ ว่า ขณะนี้เพิ่งจะเป็นเวลาเพียง 14.00 น. และองค์ประชุมยังมีความพร้อม จึงเห็นว่าควรดำเนินการประชุมต่อไปได้

เมื่อถึงช่วงประธานฯ สั่งขอมติเกี่ยวกับชื่อของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ชวน ได้กดออดเพื่อเรียกสมาชิกฯ ให้ทยอยมาแสดงตน และได้รอนานถึงเกือบ 20 นาที พลางกำชับว่า เลยเวลาอาหารเที่ยงมานานแล้ว ขอให้ช่วยกันตามเพื่อนสมาชิกฯ มาเข้าประชุม พร้อมกดออดเรียกซ้ำอีก

ระหว่างที่รอนั้น มีสมาชิกฯ ทยอยมาแสดงตนด้วยวาจาทีละน้อย ประมาณ 4-5 คน จนช่วงหนึ่ง ชวน ได้เอ่ยติดตลกพร้อมหัวเราะว่า "เก็บหอมรอมริบครับ" พร้อมหัวเราะ

จนกระทั่ง สมชาย แสวงการ ส.ว. เสนอให้ประธานนับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ เพราะ ส.ว.มีความพร้อมเช่นเดียวกับ ส.ส.ฝ่ายค้าน ขอให้การประชุมเดินหน้าต่อ แต่ ชวน กล่าวว่า ขณะนี้องค์ประชุมได้เพิ่มมาจนครบพอดี และสั่งดำเนินการประชุมต่อด้วยองค์ประชุม 368 คน

เมื่อพิจารณาต่อในมาตรา 2 ที่สมาชิกฯ จะขอแก้ระยะเวลาในการใช้บังคับกฎหมายจาก 240 วัน เป็น 180 วัน จึงมีการสั่งลงมติ ซึ่ง พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา ปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุม ได้กดออดเรียกสมาชิกฯ แสดงตน พร้อมย้ำว่า กฎหมายฉบับนี้ยาวมาก และมีผู้ขอแปรญัตติเยอะ ไม่ควรจะค้างไว้นาน แต่ตนพร้อมจะสู้ หากสมาชิกฯ มาแสดงตนโดยพร้อมเพรียงกัน ตนก็จะไม่ไปไหน

ระหว่างที่รอองค์ประชุมครบประมาณ 5 นาที และองค์ประชุมยังไม่ครบ พรเพชร กล่าวว่า ตนกำลังพิจารณาว่า จะรอผลลงมติว่าจะเอา 180 วัน หรือ 240 วันดี หรือจะไปทราบกันครั้งหน้า จากนั้นจึงได้สั่งปิดประชุมในเวลา 15.45 น.