น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ สส.กทม.เขตสายไหม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าโควิด ระลอกล่าสุดกำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว จนทำให้บุคลากรทางการแพทย์ต้องทำงานหนักขึ้น เหนื่อยขึ้น โดยไม่มีวันหยุดพัก
ขณะที่ตัวเลขของผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นกว่าวันละ 2000 คน ต่อเนื่องมาเกือบสัปดาห์เต็ม ก็ยังไม่มีทีท่าจะลดลง และยังเจอคลัสเตอร์ใหม่เพิ่มขึ้นทุกวัน ประกอบกับการบริหารจัดการของรัฐที่ขาดประสิทธิภาพ จึงยังพบผู้ป่วยที่ตกค้างตามบ้านอีกจำนวนไม่น้อย โควิดรอบนี้ถ้าไม่มีอาสาสมัครทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาสาสมัครมูลนิธิ อาสาสมัครกู้ภัย-กู้ชีพ ซึ่งหลายคนตกกลายเป็นติดเชื้อ เพราะเผชิญกับผู้ป่วยระหว่างลงพื้นที่
"ผมขอขอบคุณทุกท่านจากใจจริง เพราะทุกท่านคือ “คนทำงาน” ที่ควรได้รับการยกย่อง สรรเสริญ พี่น้องอาสาทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ แม้จะไม่มีเงินเดือน ไม่มีสวัสดิการใดๆ จากรัฐแต่มูลนิธิต่างๆ ก็ยินดีควักเงินทุกบาททุกสตางค์ ไม่เว้นแม้แต่ค่าน้ำมันรถรับส่งผู้ป่วยโควิดก็เติมกันเอง เพื่อช่วยพี่น้องคนไทยด้วยกัน"
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่า เป็นไปได้หรือไม่หากรัฐบาลจะพิจารณากำหนดเบี้ยเสี่ยงภัยให้กับอาสาสมัคร โดยเชื่อว่าพี่คนไทยยินดีแบ่งปันภาษีของเรา เพื่อดูแลอาสาสมัครเหล่านี้อย่างแน่นอน ด้วยการเยียวยาอาสาที่ต้องกักตัวจากการปฏิบัติหน้าที่ จัดสรรงบประมาณที่มีอยู่ 3.8 แสนล้าน มาเป็นเบี้ยเสี่ยงภัยให้แก่พวกเขา ให้ค่าทำขวัญสำหรับอาสาสมัครที่ติดโควิดจากการปฏิบัติหน้าที่ และสนับสนุนรถกู้ภัยที่ได้ร่วมรับส่งพี่น้องที่ติดเชื้อโควิด ออกนโยบายให้ปีหน้าไม่ต้องเสียภาษีรถยนต์ไปเลย
ภาควัต ศรีสุรพล ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจและมอบอุปกรณ์เพื่อปกป้องชีวิตประชาชน อาทิ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอลล์ล้างมือ รวมทั้งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์บางส่วนเพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน ทั้งนี้เวลานี้ทุกฝ่ายต่างต้องร่วมมือกันเพื่อฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
ด้วยจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต ที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน รัฐบาลต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ด้วยการกระจายวัคซีนที่รัฐบาลมีอยู่ให้ถึงประชาชนทุกกลุ่ม โดยไม่เลือกปฎิบัติ รวมทั้งการเพิ่มวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชนไม่ควรผูกขาดวัคซีนที่ยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง เพราะวัคซีนทางเลือกจะเป็นทางรอดของประชาชนและทางออกของประเทศด้วย
ภาควัต กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนในพื้นที่อยากให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการในการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างมีแผนงานรองรับ โดย ให้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.พักหนี้ให้เกษตรกรทั่วประเทศ โดยพักการชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยด้วย เป็นระยะเวลา 3-5 ปี เพื่อต่อลมหายใจให้เกษตรกร เพราะเวลานี้เกษตรกรทั้งประเทศอยู่ในสภาพหนี้สินล้นพ้นตัว หากรัฐบาลไม่ช่วยเกษตรกรเหล่านี้คงไม่มีทางออก จากปัญหาที่เกิดขึ้น หวั่นเกิดเหตุสลดใจในอนาคต