ไม่พบผลการค้นหา
สภาไตรภาคียางระหว่างประเทศ มีมติให้ 3 ประเทศผู้ผลิตหลัก ลดปริมาณการส่งออก 3 เดือนแรกปี 2561 เชื่อดันราคาตลาดโลกสูงขึ้นกว่ากิโลกรัมละ 60 บาท พร้อมสั่ง กยท. ชะลอระบายสต็อก 1.4 แสนตัน ช่วยพยุงราคา

นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สภาไตรภาคียางระหว่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วย 3 ประเทศ คือ ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย มีสัดส่วนส่งออกสูงถึงร้อยละ 70 มีมติออกมาตรการควบคุมการส่งออกยางพารา เพื่อแก้ปัญหาราคาตกต่ำ โดยเห็นชอบลดการส่งออกยางรวมกัน 3.5 แสนตัน เป็นเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2561 เพื่อส่งสัญญาณไปยังประเทศผู้ซื้อว่า ประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ทั้ง 3 ราย กำลังจะลดกำลังการผลิตยาง ซึ่งจะทำให้ราคายางในตลาดโลก ปรับตัวสูงขึ้น

หลังจากนี้ จะให้กรมส่งเสริมการเกษตร หารือกับผู้ส่งออก คำนวณการลดปริมาณส่งออก เบื้องต้น ไทยจะลดการส่งออก 2.3 แสนตัน อินโดนีเซีย 9.5 หมื่นตัน และมาเลเซีย 2 หมื่นตัน พร้อมกับเพิ่มมาตรการชะลอการระบายยางที่มีในสต็อกในประเทศ 1.4 แสนตัน ช่วยพยุงราคาในช่วงนี้ ดาดว่าช่วงไตรมาสแรกปีหน้า ราคายางจะกลับมาสูงขึ้นที่กิโลกรัมละ 60 บาท จากขณะนี้กิโลกรัมละ 40 บาท

ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุ ราคายางพาราแผ่นดิบชั้น 3 ในปีนี้ มีราคาเฉลี่ยที่กิโลกรัมละ 57.60 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จากปีก่อน เป็นผลจากราคายางปรับตัวลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบปีที่กิโลกรัมละ 41.35 บาท เพราะปริมาณสต็อกยางของจีนอยู่ในระดับสูง