ไม่พบผลการค้นหา
ชาวกัมพูชาหลายพันคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน หลังเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยในลาวแตก จนน้ำไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ทางตอนเหนือของกัมพูชา

เจ้าหน้าที่ของจังหวัดสตึงแตรง ทางตอนเหนือของกัมพูชาเปิดเผยว่าได้อพยพประชาชนกว่า 1,200 ครอบครัวออกจากพื้นที่ หลังเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยใน สปป. ลาวแตก ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้นอยู่ในระดับอันตราย และไหลบ่าเข้าท่วมหลายหมู่บ้านในจังหวัดสตึงแตรงของกัมพูชา

มวลน้ำที่ไหลบ่าจากเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยลงแม่น้ำเซกอง ซึ่งไหลจากลาวลงสู่กัมพูชา ส่งผลให้หมู่บ้านที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำดังกล่าวได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยระดับน้ำที่ท่วมขังในบางพื้นที่สูงถึง 11.5 เมตร ทำให้บ้านเรือนจมน้ำทั้งหมด

โฆษกจังหวัดสตึงแตรงแถลงว่า ประชาชนจาก 17 หมู่บ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมถูกอพยพออกจากพื้นที่แล้ว ขณะเดียวกันทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย 700 นายก็ถูกส่งเข้าไปในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ยังติดค้างอยู่ในพื้นที่

นายไบร��ัน อายเลอร์ ผู้อำนวยการโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของศูนย์สติมสันกล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็นภัยพิบัติจากฝีมือมนุษย์อย่างไม่ต้องสงสัย และมีแนวโน้มสูงว่าประชาชนชาวกัมพูชาไม่ได้รับการแจ้งเตือนว่าน้ำจากเขื่อนในลาวจะไหลบ่าลงมาที่กัมพูชา เนื่องจากนี่เป็นระบบแม่น้ำสายย่อยมาจากแม่น้ำโขง จึงไม่มีระบบแจ้งเตือนภัยน้ำท่วม และไม่มีการจัดการภัยพิบัติระหว่างลาวและกัมพูชา

เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา สันเขื่อนกั้นอ่างเก็บน้ำในโครงการก่อสร้างเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยในเมืองสะหนามไซ แขวงอัตตะปือ ทางใต้ของ สปป. ลาว ทรุดลง เนื่องจากรองรับปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องหลายวันไม่ไหว ส่งผลให้มวลน้ำกว่า 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตรไหลบ่าท่วมบ้านเรือนประชาชนละแวกใกล้เคียง โดยมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตในลาวแล้วอย่างน้อย 26 ราย สูญหายอีก 131 คน ขณะที่ประชาชนต้องอพยพออกจากพื้นที่มากกว่า 6,000 ครอบครัว

สำนักข่าวเดอะ การ์เดียนรายงานว่า ลาวเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ที่ไม่ค่อยเปิดเผยข้อมูลภายในมากนัก การเปิดเผยข้อมูลความเสียหายเกี่ยวกับเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตกจึงล่าช้า โดยเฉพาะเมื่อหน่วยกู้ภัยเดินทางเข้าไปในพื้นที่ห่างไกล

ที่มา : The Guardian