นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า จากกรณีที่นายธารา บัวคำศรี ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กล่าวถึงปัญหาเรื่องฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นใน กทม. ขณะนี้ว่า ค่าเฉลี่ย PM 2.5 ที่บางนาตั้งแต่เมื่อคืน (12 ก.พ.) จนถึงเช้านี้ (13 ก.พ.) อยู่ที่ 61.87 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เมื่อนำเอาความเข้มข้นฝุ่นพิษดังกล่าวไปหาดัชนีคุณภาพอากาศ ตามวิธีการของสหรัฐอเมริกา ผลคืออยู่ในระดับสีแดง ซึ่งแสดงว่าคุณภาพอากาศมีอันตรายต่อสุขภาพ และเป็นวิกฤตด้านสุขภาพของประชาชน ถ้ารัฐไม่มีประสิทธิภาพ ประชาชนจะลงมือติดตามตรวจสอบและรายงานคุณภาพอากาศกันเอง
กรมควบคุมมลพิษ ชี้แจงว่า การกำหนดค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ของแต่ละประเทศที่ใช้แถบสีในการรายงาน จะมีความสัมพันธ์กับค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศ ที่แต่ละประเทศกำหนด ซึ่งการกำหนดค่ามาตรฐานจะพิจารณากำหนดจากข้อมูลพื้นฐานการพัฒนาของประเทศ สภาพเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งค่ามาตรฐานระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกายังมีความแตกต่างกัน
โดยประเทศไทยกำหนดค่ามาตรฐานฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม) ในขณะที่ค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมงของสหรัฐอเมริกาไม่เกิน 35 มคก./ลบ.ม. ประกอบกับระดับการแบ่งช่วงค่าและความหมายของสีที่ใช้ระหว่างดัชนีคุณภาพอากาศของประเทศไทยและของสหรัฐอเมริกามีความแตกต่างกันเช่นกัน ดังนั้นจึงยังไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้
นางสุณี กล่าวว่า หลังจากพบว่า PM 2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐาน กรมควบคุมมลพิษ ได้มีการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรุงเทพมหานคร กรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมอุตุนิยมวิทยา กองบังคับการตํารวจจราจร กรมการขนส่งทางบก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 6 (นนทบุรี) และ ผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อกำหนดและดำเนินการตามมาตรการเร่งด่วนในแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 และมาตรการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ โดยการเฝ้าติดตามตรวจสอบ เฝ้าระวัง
พร้อมแจ้งเตือนสถานการณ์ผ่านช่องทางต่างๆ การให้ความรู้/สร้างความเข้าใจกับสื่อมวลชนและประชาชน ควบคุมและลดมลพิษจากยานพาหนะ โดยเพิ่มจุดตรวจจับรถควันดำและบังคับใช้กฎหมาย การเข้มงวดการตรวจสภาพรถโดยสาร/ตรวจสอบตรวจจับ การจัดซื้อรถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง กรุงเทพมหานคร ได้ปฏิบัติตามมาตรการในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างเข้มข้น โดยมุ่งเน้นการลดมลพิษจากการจราจร การลดฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง การลดฝุ่นละอองจากการเผาและกิจการต่างๆ รวมถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดถนน และการขอความร่วมมือจากภาคประชาชนดูแลรักษารถยนต์ของตนเองให้อยู่ในสภาพดี ช่วยลดการนำยานพาหนะส่วนบุคคลเข้าในเขตเมือง ให้ใช้รถร่วมกัน "ทางเดียวกันไปด้วยกัน" (Carpool) การใช้รถขนส่งสาธารณะ รวมทั้งการงดการเผาขยะ ใบไม้ กิ่งไม้
นางสุณี กล่าวด้วยว่า ด้านมาตรการดูแลสุขภาพ ให้ประชาชนหลีกการสัมผัสฝุ่นละอองโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด ใช้หน้ากากป้องกันฝุ่นหรือใช้ผ้าชุบน้ำ เลี่ยงการออกกำลังกายหรือทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานาน ลดการใช้รถยนต์และการเผาขยะ ซึ่งให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเฝ้าระวังและรายงาน 4 โรคสำคัญ ได้แก่โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเยื่อบุตาอักเสบ และโรคผิวหนัง ที่อาจเกิดจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก และให้เจ้าหน้าที่ติดตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียงในวันที่มีค่าฝุ่นสูง
นอกจากนี้ ยังมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ เนื่องจากปริมาณฝุ่นละอองในพื้นที่ที่มีค่าเกินมาตรฐานไม่ได้มีค่าสูงตลอดเวลา และขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารและข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิด จากการเผยแพร่ เว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษ แฟนเพจเฟซบุ๊กกรมควบคุมมลพิษ