พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะลงพื้นที่ ต.หนองแวง อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ เพื่อเปิดโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำสะพุ่งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นโครงการเพื่อพัฒนาแหล่งกักเก็บน้ำในลุ่มน้ำชี เป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายด้านการบริหารจัดการน้ำ เชิงพื้นที่อย่างเป็นระบบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้เป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับการอุปโภค บริโภค ของประชาชนในพื้นที่และใกล้เคียง ใช้กักเก็บน้ำในช่วงหน้าแล้ง เพื่อการเพาะปลูก และเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ ระยะเวลาในการดำเนินการก่อสร้าง 6 ปี พศ.2562-2567 วงเงินรวม 3,100 ล้านบาท
นายกฯ ยังได้ชมแบบจำลองโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำสะพุ่งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นมัสการเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ ชมการฟ้อนรำชุด ฟ้อนของดีเมืองชัยภูมิ และพบปะประชาชน ซึ่งรายงานว่าประชาชนมาต้อนรับถึง 20,000 คน
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชนว่า ดีใจที่ได้มาเยือน จ.ชัยภูมิ ถือเป็นอีกบ้านเกิดของตนเอง เพราะเป็นบ้านเกิดของมารดา อย่างไรก็ตามยังคงมีญาติพี่น้องอาศัยอยู่ที่นี้ด้วย จึงมีความผูกพันธ์ พร้อมกันนี้ขอขอบคุณคนที่นี้ที่มารอต้อนรับมากที่สุด และดีใจที่เห็นรอยยิ้มทุกคน เพราะพื้นที่กำลังได้รับการพัฒนา การทำงานครั้งนี้ถือว่าเป็นการบูรณาการทำงานแบบสานพลังประชารัฐ ซึ่งรัฐบาลก็ได้แก้ปัญหา สิ่งไหนที่ติดขัด ก็นำมาแก้ปัญหา จนเกิดการทำงาน และเกิดการบูรณาการจัดการน้ำ อย่างทั่วถึง ไม่ใช่แก้ปัญหาหรือทำงานเฉพาะจุด แต่จะทำอย่างทั่วถึง เพราะรัฐบาลกำหนดนโยบายออกมา จนนำมาสู่ความร่วมมือ แล้วจะเกิดผลมาสู่คนอื่นๆด้วย
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการใหญ่ มูลค่าเกินหนึ่งพันล้าน และถือเป็นโครงการประวัติศาสตร์ ต้นแบบโครงการอื่นๆ เพื่อทุกคนได้รับผลประโยชน์ แต่ทุกคนก็ต้องทำงานร่วมกัน เหมือนกับการทำงานแบบประชาธิปไตย ที่ต้องรับฟังความคิดเห็นส่วนใหญ่ แต่นำความคิดเห็นส่วนน้อย มารับฟังด้วย แต่วันนี้ถือว่าประเทศต้องได้รับการพัฒนา และต้องหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง
นายกรัฐมนตรี กล่าวช่วงหนึ่งว่า ขอทุกคนช่วยกันความสงบเรียบร้อย ทั้งในช่วงจะมีการเลือกตั้ง และช่วงที่ไทยจะทำหน้าที่ประธานอาเซียน ที่สำคัญ คือประเทศไทยจะมีพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก เกิดขึ้นในช่วงเวลาอันใกล้นี้ และยังห่วงใยประชาชน ในการรับข่าวสารจากโซเซียล ที่บางครั้งเป็นเรื่องตลาด สนุกสนาน เพลิดเพลิน จนขาดการรับข่าวสารจากโลกภายนอก หรือข่าวสารที่เป็นทางการ ดังนั้นจึงขอให้ทุกคนหันกลับมาดูโลกภายนอก อย่าสนใจแค่ในสังคมตนเอง มากนัก
"รัฐบาลนี้กำลังปฎิรูปประเทศ ในหลายด้านทั้งการศึกษา และรับบราชการ ที่ข้าราชการต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยการทำงาน ลดการใช้เอกสาร สิ่งสำคัญคือการปฎิรูปด้านการเกษตร โดย ใช้เทคโนโลยีด้านการเกษตร เพื่อให้เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ใช้หลักการตลาดนำการผลิต เป็นเกษตรอินทรีย์ ทั้งนี้รัฐบาลได้แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งกำลังเดินหน้ากฎหมายอย่างเคร่งครัด"
พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันการลงพื้นที่ไม่ใช่การเมืองแต่อย่างใด รวมถึงนโยบายที่รัฐบาลที่ออกมาในช่วงนี้ ก็ไม่ได้มุ่งหวังสิ่งไหน แต่เป็นการทำเพื่อเพิ่มรายได้ และช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ไม่แตกต่างจากต่างประเทศ เช่น ประเทศสิงคโปร์ที่เตรียมอัดฉีด เงินกว่า 5 หมื่นดอลลาร์เพื่อดูแลผู้มีรายได้ปานกลาง
จวกบางพรรคเมินหารือ 7 ธ.ค. ไม่อยากเลือกตั้ง
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุกับผู้สื่อข่าวด้วยว่าไม่ให้สัมภาษณ์ เพราะได้พูดกับประชาชนไปหมดแล้ว เมื่อถามว่า นายกฯ บอกกับประชาชนว่าจะมีพระราชพิธีสำคัญ นายกฯ ระบุว่า "ก็มีไง เคยบอกมาตั้งนานแล้วว่าจะมี แต่ยังไม่ทราบว่าวันไหน แล้วแต่พระองค์ท่านจะกรุณาโปรดเกล้าฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่พระองค์จะพระราชทานและกำหนดเอง เพราะเป็นเรื่องของการโปรดเกล้าฯ เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ลงมา เราก็ต้องทำบ้านเมืองให้เรียบร้อย"
ขณะที่การหารือระหว่าง คสช.และพรรคการเมืองในวันที่ 7 ธ.ค. นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะไปรับฟังข้อเสนอแนะจากฝ่ายการเมือง แต่ไม่มีคำตอบใดๆทั้งสิ้น หากบางพรรคการเมืองไม่เข้าร่วมพูดคุยนั้นหากไม่มาก็ช่างเขา ที่ไม่มาเพราะไม่อยากเลือกตั้งหรืออย่างไร หากไม่เข้าเคารพกติกา แล้วจะอยู่อย่างไร
ปลุกคนอีสานให้รักคนที่จริงใจ เลือกรัฐบาลหน้าให้ดี
จากนั้น นายกฯและคณะเดินทางมายังป่าโล่ใหญ่ เขตอุทยานตาดโตน อ.เมืองชัยภูมิ เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดฝายลำดับที่ 111 เปิดระบบกระจายน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ และปลูกต้นไม้ ตามการดำเนินโครงการ ป่ารักษ์น้ำโล่ใหญ่ จ.ชัยภูมิ บริเวณพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมโล่ใหญ่ เขตอุทยานตาดโตน อ.เมืองชัยภูมิเป็นพื้นที่ต้นแบบจังหวัดในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทำกิจกรรมปลูกป่าพันธุ์ไม้ป่ามีดอก กว่า 7,000 ไร่ กิจกรรมสร้างฝายมีชีวิตด้วยวัสดุธรรมชาติเพื่อบรรเทาปัญหาน่ำท่วม และแก้ปัญหาภัยแล้ง
โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชนว่า ตนเป็นลูกอีสานเหมือนกัน รู้ว่าทุกคนเหนื่อย ลำบากจึงต้องมาเยี่ยม แม่ของตนเป็นคนชัยภูมิ แม้ตนจะเกิดที่โคราช แต่เป็นนายกฯ ของคนทั้งประเทศ เป็นคนอีสานแท้จริง รักใครรักจริง แต่ขอให้รักให้ถูกคนด้วย โดยรักคนที่เขาจริงใจและทำงานให้กับเราไม่ใช่ที่พูดเรื่อยเปื่อย ดังนั้น รัฐบาลหน้าก็ต้องเลือกให้ดีและต้องพูดว่าจะทำอะไรให้ ไม่ใช่พูดแค่ปากเปล่า