โดยแถลงการณ์ของสโมสรนิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์การแจ้งข้อหาและจับกุมผู้เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง ตั้ังแต่วันพุธที่ 13 ม.ค. 2564 สถานีตำรวจภูธรคลองหลวงได้บุกจับกุมตัวนิว ศิริชัย นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ณ ที่พัก เวลากลางดึก ในข้อหามาตรา 112 โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า และควบคุมตัวไปยังกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1
ต่อมาในวันเสาร์ที่ 16 ม.ค.2564 มีการจับกุมผู้ชุมนุมหลายครั้ง ได้แก่ เวลา 12.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตำรวจได้ทำการล้อมจับผู้เข้าร่วมกิจกรรมเขียนป้ายผ้าเรียกร้องให้มีการยกเลิกมาตรา 112 โดยมีผู้ถูกจับกุมตัวด้วยความรุนแรงโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าจำนวน 2 ราย และถูกนำตัวไปยังกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1
เวลา 15.00 น. ได้มีการควบคุมตัวสมาชิกกลุ่มนักเรียนเลวซึ่งเป็นนักเรียนมัธยมไปเจรจาที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ต่อมาได้ปล่อยตัวกลับมาทำกิจกรรม “พระคุณที่สาม งดงามแจ่มใส” ที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการในภายหลัง
เวลา 17.40 น. บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าสามย่านมิตรทาวน์ ตำรวจควบคุมฝูงชนหลายร้อยนายเข้าจับกุมผู้ชุมนุม 4 คนโดยไม่แจ้งข้อหา และนำตัวขึ้นรถขนผู้ต้องขัง ยึดโทรศัพท์และนำตัวไปยังกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1
ตำรวจไทยกระทำการผิดกฎหมายเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น จับกุมโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ไม่แจ้งข้อหาในการจับกุม ใช้กำลังเกินกว่าเหตุในการควบคุมฝูงชน และสลายการชุมนุมโดยไม่ทำตามหลักสากล โดยอ้างอำนาจของประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่แท้จริงแล้วคำว่า “สถานการณ์ฉุกเฉิน” ของรัฐไทยถูกอ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการกระทำอันละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก (Freedom of Expression) จนกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า สภาวะยกเว้น (State of Exception) ซึ่งคือการใช้อำนาจที่ไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม (Rule of Law)
นอกจากนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าได้อาศัยอำนาจใดในการใช้กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 จังหวัดปทุมธานี เป็นสถานที่ควบคุมตัว ซึ่งเดิมเป็นสถานที่ควบคุมตัวบุคคลที่สงสัยว่าจะเป็นผู้ร่วมกระทำการให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินตามพระราชกำหนดฉุกเฉินร้ายแรง แต่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงได้ยกเลิกไปแล้วตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค. 2563
สโมสรนิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอประณามการกระทำอันเป็นการรับใช้อำนาจเผด็จการ บั่นทอนประชาธิปไตย ไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม และละเมิดสิทธิมนุษยชนดังกล่าว และขอเรียกร้องไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ที่เห็นชอบในการสั่งการ ให้ดำเนินการตามข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้
1. ขอให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมทุกคนอย่างไม่มีเงื่อนไข
2. ขอให้เลิกใช้กฎหมายเป็นข้ออ้างในการคุกคามประชาชนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ด้วยการใช้กระบวนการที่ผิดกฎหมายและหลักนิติธรรมเสียเอง
นอกจากนี้ สโมสรนิสิตรัฐศาสตร์ขอสื่อสารไปถึงตำรวจชั้นผู้น้อยทุกท่านที่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้คุกคามและจับกุมประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ขอให้ท่านพิจารณาว่าการปฏิบัติตามคำสั่งและอำนาจอันมิชอบธรรมนั้นใช่ศักดิ์ศรีของอาชีพตำรวจหรือไม่ การกระทำเหล่านี้คู่ควรกับคำว่า “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ที่ปฏิญาณจะ “ระงับทุกข์ และบำรุงสุขให้แก่ประชาชน” อย่างไร ขอให้ท่านมุ่งคำนึงถึงสาธารณประโยชน์ มากกว่าประโยชน์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือคนเพียงคนเดียว
ภายใต้เครื่องแบบตำรวจ ท่านก็คือมนุษย์และประชาชนเช่นเดียวกัน อำนาจอันไม่ชอบธรรมนั้นดำรงอยู่ได้ก็ต่อเมื่อท่านยอมเป็นแขนขาให้กับเหล่าทรราช หากไร้ซึ่งผู้จำนน เผด็จการก็จะหมดซึ่งเขี้ยวเล็บ ขอให้ท่านหันกลับมาพิทักษ์รักษาสิทธิมนุษยชน และยืนข้างประชาชนผู้เป็นนายที่แท้จริงของท่าน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง