ไม่พบผลการค้นหา
'อนุทิน' ลั่น​เส้นใหญ่ขนาดไหนก็ไม่รับเคลียร์​ ชี้​ชาวต่างชาติอยู่ไทยต้องเคารพกฎหมาย หลังเกิดเหตุวิวาทกลุ่มหลากหลายทางเพศชาวฟิลิปปินส์ ทำตัวเป็นมาเฟีย ใช้วีซานักท่องเที่ยวแอบขายบริการ

วันที่ 6 มี.ค. อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ที่สุขุมวิท 11 กรณีกลุ่มหลากหลายทางเพศฟิลิปปินส์ ถือวีซานักท่องเที่ยว และทำตัวเป็นมาเฟียในประเทศไทย โดยยืนยันว่า กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ทำงานร่วมกัน เพราะตอนนี้เป็นกระแสที่คนให้ความสนใจแล้ว และมั่นใจว่าตำรวจ และฝ่ายปกครอง เร่งไปกวดขันดูแล้วเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ทุกอย่างมีกฎหมายกำกับอยู่แล้ว ซึ่งทุกคนทำผิดกฎหมายไม่ได้

ส่วนชาวต่างชาติเมื่ออยู่ประเทศเขาแล้วก็ต้องเคารพกฎกติกา ซึ่งหลักมีอยู่แค่นี้ ยิ่งเข้ามาแล้วจะมาสร้างอิทธิพล ทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย ข่มเหงรังแกเจ้าของประเทศ ซึ่งตนเองเชื่อว่าหลังจากนี้จะต้องดีขึ้น เพราะมีการตื่นตัวกันแล้ว 2-3 วันนี้ ก็มีแต่รายงานเข้ามา ส่วนนักท่องเที่ยวฟิลิปปินส์หลังจากมีเรื่องเข้ามาก็หายไปแล้ว

อนุทิน ยังกล่าวอีกว่า ตนเองเป็นฝ่ายนโยบาย แต่เชื่อว่าเมื่อผู้ปฏิบัติตำรวจ และกรมการปกครองจะดำเนินการอย่างเต็มที่ และสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่รัฐทำตามหน้าที่ และกฎหมายเพื่อให้คนไทยมั่นใจว่า จะไม่มีใครเส้นใหญ่มาเคลียร์ไม่ได้ ซึ่งเราไม่รับเคลียร์

ส่วนเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทที่สุขุมวิท 11 ระหว่างกะเทยทั้งสองประเทศจนถูกขนานนามว่าเป็นวันกะเทยผ่านศึกนั้น อนุทิน กล่าวว่า อย่าไปกล่าวถึงขนาดนั้นเลย และอย่าลงรายละเอียด เอาเป็นว่าหากเจ้าที่บ้านเมืองคนไหน ที่ทำตามกฎหมาย และภารกิจหน้าที่ และเจตนารมณ์ที่ปกป้องประชาชน จะไม่มีใครมาทำร้ายเขาได้ ซึ่งตนเองขอคำยืนยัน


มอง​ ‘ยิ่งลักษณ์’ กลับไทยทำได้​หากไม่ผิดกฎหมาย​

อนุทิน​ ​ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง​ ยกฟ้อง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีจัดโรดโชว์ “สร้างอนาคตประเทศไทย ไทยแลนด์ 2020” นั้นได้มีการโทรแสดงความยินดีแล้วหรือไม่​ ว่า ตนมีความปรารถนาดีต่อท่านเสมอ แต่ยังไม่มีเบอร์โทรศัพท์ของท่าน

ส่วนที่นักวิชาการออกมาระบุว่า ยิ่งลักษณ์​ อาจจะเดินทางกลับไทยในช่วงปีนี้​นั้น​ อนุทิน​ ระบุว่า​ ตนยังไม่ได้ศึกษาในรายละเอียด แต่อะไรที่ทำแล้วไม่ผิดกฎหมายไม่มีใครเดือดร้อน​ ถ้าเราได้ยินได้ฟังมาก็โอเค​ ส่วนไหนไม่ผิดกฎหมายเราก็ยินดีชื่นชม เพราะเป็นคนรู้จักกัน เพราะตนไม่ชอบเห็นใครมีความทุกข์อยู่แล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ทักษิณ ชินวัตร​ อดีตนายกฯ​ จะเดินทางไปไหว้บรรพบุรุษ​ที่เชียงใหม่ ช่วงเดียวกับที่นายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่ นั้น อนุทิน​ ปฏิเสธการตอบคำถาม โดยกล่าวสั้นๆ เพียงว่าพอแล้วจะรีบเข้าร่วมประชุม

ทั้งนี้ อนุทิน​ เป็นประธานการประชุมบูรณาการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2​ ซึ่งจะเป็นการประชุมหารือก่อนที่จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี​นอกสถานที่จังหวัดพะเยา​ ในวันที่​ 19 มีนาคมนี้​



ไม่หวั่น 'ฝ่ายค้าน' จ่อซักฟอก มท.

อนุทิน กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้าน เตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตามมาตรา 152 ช่วงต้นเดือนเมษายน โดยมีการเปิดการบ้านจะอภิปรายประเด็นอภิปราย กระทรวงมหาดไทยไม่ได้ขับเคลื่อนแก้ปัญหาเร่งด่วนและไม่มีผลเป็นรูปธรรม เรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพลทั้งคนไทยและคนต่างประเทศ ว่า เรื่องนี้ไม่รู้จะพูดอย่างไร ต้องคนอยู่หน้างาน ซึ่งตนเองไม่แก้ตัว เมื่อฝ่ายค้านมีความประสงค์ที่จะอภิปราย เราก็ต้องเตรียมตัว โดยในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ยังทำหน้าที่นี้ได้อย่างเข้มข้น

เมื่อถามว่า ผลงานไม่เป็นที่ประจักษ์จนทำให้ฝ่ายค้านต้องยื่นอภิปรายใช่หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ของพวกนี้เขาไม่โชว์กันหรอก โดยก่อนที่ตนเองจะมาประชุมบูรณาการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้ไปตรวจการจับกุมยาเสพติด 10 ล้านเม็ด ที่ จ.ปทุมธานี ซึ่งทางตำรวจก็ยังไม่ให้ตนเองดูกล้องวงจรปิดเลย เนื่องจากเป็นความลับ และของพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะต้องมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ พร้อมถามกลับว่า ทุกวันนี้ปัญหายาเสพติดในสถานบันเทิงน้อยลงหรือไม่ และผับเปิดน้อยลงหรือไม่ ซึ่งถ้าน้อยลงแปลว่ามันเวิร์คอยู่