ไม่พบผลการค้นหา
ผู้บริหารแกร็บ ประเทศไทย แจงแผนหลังควบรวมกิจการอูเบอร์ ดึงฐานข้อมูลผู้ขับ ผู้โดยสาร จากแอปพลิเคชันอูเบอร์ เข้าแอปพลิเคชันแกร็ป ภายใน 9 เม.ย.นี้ ส่วนข้อมูลร้านอาหารพันธมิตรจะเสร็จสิ้นภายในเดือน พ.ค. พร้อมรับพนักงาน-ผู้บริหารอูเบอร์ร่วมงาน เดินหน้าเจรจารัฐสร้างกติกาบริการเรียกรถผ่านแอปฯ

นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกร็บ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การควบรวมกิจการของแกร็บกับอูเบอร์ที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ เป็นการควบรวมทั้งกิจการและสินทรัพย์ของอูเบอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด รวมถึงกิจการเรียกรถโดยสารผ่านแอปพลิเคชั่น บริการรับส่งอาหารของอูเบอร์ โดยแกร็บและอูเบอร์จะทำงานร่วมกัน และจะย้ายฐานข้อมูลรายชื่อคนขับและผู้โดยสารจากแอปพลิเคชันอูเบอร์ ซึ่งรวมถึงฐานข้อมูลลูกค้าที่สั่งอาหาร ผู้จัดส่ง และพันธมิตรร้านอาหารจากแอปพลิเคชั่นอูเบอร์อีทส์ ไปยังแพลตฟอร์มของแกร็บ

โดยแอปพลิชั่นอูเบอร์จะให้บริการต่อไปอีกเป็นเวลาสองสัปดาห์ (ถึง 9 เม.ย.) เพื่อให้คนขับได้ทำงานตามปกติและให้เวลาผู้ขับขี่เข้าไปลงทะเบียนสมัครเป็นพาร์ตเนอร์คนขับกับแกร็บทางช่องทางออนไลน์ที่ www.grab.com/th/comingtogether ส่วนแอปพลิเคชั่นอูเบอร์อีทส์จะให้บริการต่อไปจนถึงสิ้นเดือน พ.ค.นี้ และหลังจากนั้นข้อมูลรายชื่อผู้จัดส่งและพันธมิตรร้านอาหารจะถูกถ่ายโอนไปยังแอปพลิเคชั่น GrabFood เช่นกัน

พร้อมกันนี้ ยังได้นำเสนอบริการผู้ใช้รายใหม่ของแกร็บ ผ่านโปรแกรมสะสมแลกคะแนน 'แกร็บรีวอร์ดส' (GrabRewards) สำหรับผู้โดยสาร และโครงการ 'Better365' สำหรับพาร์ตเนอร์ ผู้ขับขี่ ยกระดับประสบการณ์ของผู้โดยสารและช่วยให้เงินที่จับจ่ายผ่านการเดินทางมีมูลค่ามากขึ้น โดยผู้ขับขี่จะได้รับสิทธิประโยชน์จากบริการสนับสนุนและช่วยเหลือต่างๆ ที่บริษัทมอบให้ รวมถึงโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมกับพาร์ตเนอร์ผู้ขับขี่รายอื่นเป็นระยะๆ เช่น กิจกรรมการฝึกอบรมพิเศษ วันกิจกรรมกีฬา ตลอดจนงานอื่นๆ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่ได้มารวมตัวและพบปะสังสรรค์กัน 

ทั้งนี้ ในปัจจุบัน แกร็บ ได้ให้บริการแก่ผู้คนประมาณ 90 ล้านคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และช่วยให้บรรดาพาร์ตเนอร์ผู้ขับขี่ พันธมิตรคู่ค้ารายย่อย และตัวแทน รวมกว่า 5 ล้านคน สามารถหารายได้ได้ ขณะเดียวกัน บริษัทกำลังดำเนินการขยายบริการ 'แกร็บฟู้ด' (GrabFood) เพื่อมอบโอกาสในการทำงานรับส่งอาหารแก่พาร์ตเนอร์ผู้ขับขี่ และมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า

อย่างไรก็ตาม ด้วยนโยบายด้านการสื่อสาร บริษัทไม่สามารถระบุถึงตัวเลขจำนวนผู้ขับขี่ ผู้โดยสารที่เป็นสมาชิก และพันธมิตรร้านอาหารของทั้งแกร็บและอูเบอร์ได้

สำหรับโครงสร้างการบริหาร หลังจากควบรวมกิจการแล้ว นายดารา โคสโรว์ชาฮี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอูเบอร์ จะเข้าร่วมเป็นหนึ่งในทีมผู้บริหารของแกร็บ ส่วนผู้บริหารและพนักงานของอูเบอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงประเทศไทยจะได้รับข้อเสนอให้ร่วมงานกับแกร็บ ขณะที่พนักงานอูเบอร์ที่มีขอบเขตความรับผิดชอบนอกเหนือไปจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะยังคงทำงานร่วมกับอูเบอร์ต่อไป 

 อูเบอร์เตรียมให้บริการเพิ่ม 100 เมืองในจีน

เดินหน้าคุยภาครัฐ สร้างกติกา 'บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชั่น'

นายธรินทร์ ยังให้ความเห็นต่อนโยบาย ride sharing ในประเทศไทย ซึ่งทั้งแกร็บและอูเบอร์ได้พยายามผลักดันในเชิงนโยบาย และกฎหมายมาตลอดเวลาที่เข้ามาเปิดดำเนินกิจการในประเทศไทย โดยระบุว่า แกร็บได้หารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอดในเรื่องของอนาคตของบริการเรียกรถโดยสารผ่านแอปพลิเคชั่น รวมถึงการร่างกฎระเบียบใหม่เพื่อให้ธุรกิจนี้เป็นประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย

"เรามีความตั้งใจหาแนวทางร่วมกับทุกฝ่ายและให้การสนับสนุนในด้านต่างๆ เพื่อร่วมพัฒนาประเทศ รวมถึงเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของผู้คนในสังคมไทยเช่นเดียวกับในประเทศอื่นๆ ที่เราเข้าไปดำเนินกิจการ" นายธรินทร์กล่าว 

พร้อมกับยกตัวอย่าง 'Open Traffic' ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มด้านข้อมูลระดับโลกที่จัดทำขึ้นโดยไม่แสวงกำไร อันเป็นผลมาจากความร่วมมือกันระหว่างแกร็บและธนาคารโลก ซึ่งปัจจุบัน รัฐบาลประเทศฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียสามารถนำข้อมูลจากแพลตฟอร์ม Open Traffic ไปใช้วางแผนและกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้คนในประเทศ อาทิ การนำข้อมูลจากแพลตฟอร์มมาใช้ปรับปรุงระบบสัญญาณไฟจราจร เพื่อลดความหนาแน่นการจราจร การวิเคราะห์รูปแบบการจราจรด้วยข้อมูลพื้นฐานเพื่อคาดการณ์และตัดสินใจ และการออกแบบเส้นทางสำหรับวางระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง 

"สำหรับในประเทศไทย แกร็บยังคาดหวัง จะได้มีโอกาสทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในทำนองเดียวกัน" นายธรินทร์กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: