ข้อกล่าวหาเรื่องวิสามัญมาตกรรมหลายร้อยศพแต่ไม่สอบสวนหนนี้ มาจากรายงานล่าสุดของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ที่นำเสนอเมื่อวันศุกร์ (22 มิ.ย.) ที่ผ่านมา รายงานสรุปว่าเวเนซุเอลามีปัญหาในการรักษาสภาพนิติรัฐ
ลอสแอนเจลิสไทม์สชี้ว่าในรายงานฉบับนี้ ยูเอ็นได้เก็บตัวเลขการละเมิดสิทธิในกรณีพิเศษที่ไม่ใช่กรณีการก่ออาชญากรรมทั่วไป โดยระบุว่าในระหว่างปี 2015-2017 มีเจ้าหน้าที่ 357 คนถูกสอบสวนเพราะพัวพันการวิสามัญฆาตกรรม 505 กรณี แต่เมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว มีการเปลี่ยนตัวอัยการจากบุคคลที่มีทีท่าวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร หลังจากนั้นก็ไม่ปรากฎว่ามีข้อมูลในเรื่องความคืบหน้าของการสอบสวนออกมาแต่อย่างใด รายงานระบุว่า หลักฐานต่างๆ ดูจะหายไปจากแฟ้มคดีเช่นกัน
นายเซอิด ราอัด อัล ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นชี้ว่า สภาพเช่นนี้เป็นสภาพที่เจ้าหน้าที่ไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบใดๆ และการถ่วงดุลอำนาจหมดไปด้วย เขาเรียกร้องให้เวเนซุเอลายุติสภาพไร้ขื่อแปและการที่ปล่อยให้คนทำผิดลอยนวล พร้อมกันนั้นระบุว่า UNHRC จะส่งรายงานดังกล่าวไปให้กับศาลอาญาระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ รายงานของอัลจาซีราเจาะจงถึงกรณีหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ล่าปราบปราม 'ออสการ์ เปเรซ' กับสมัครพรรคพวกอีก 6 คนที่คัดค้านรัฐบาลโดยขโมยเฮลิคอปเตอร์และก่อเหตุ รัฐบาลส่งเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธครบมือจำนวนร่วม 400 นายติดตามไล่ล่าเขาและกลุ่มไปถึงเขตภูเขานอกกรุงการากัส จากคลิปวิดีโอที่ออกมานั้นเปเรซพยายามขอมอบตัว แต่ทั้งหมดก็ถูกยิงตาย เจ้าหน้าที่ยูเอ็นเชื่อว่ามีคำสั่งจากบุคคลระดับสูงให้กำจัดบุคคลเหล่านั้น
ด้านรัฐบาลเวเนซุเอลาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งมวลและบอกว่ารายงานนี้เป็นเรื่องตลกอย่างมโหฬาร โดยเฉพาะที่ไม่รวมเอาข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ได้จากการสอบสวนรวมเข้าไปในรายงานด้วย พร้อมทั้งยืนยันว่าเวเนซุเอลายังยืนหยัดเคารพในสิทธิมนุษยชนอันเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายระหว่างประเทศ รัฐบาลของประธานาธิบดีมาดูโรนั้นยืนยันมาตลอดว่า เสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของตนมาจากแผนบ่อนเซาะเวเนซุเอลาที่นำโดยเจ้าหน้าที่บางส่วนของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม นายอันตอนิอู กูแตร์รีช เลขาธิการยูเอ็น เห็นว่าตัวเลขจำนวนคดีที่เกี่ยวข้องกับการวิสามัญฆาตกรรมนั้นสูงจนน่าตกใจ และเขาเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่เวเนซุเอลาต้องมีการพูดคุยเพื่อความปรองดองทางการเมืองในประเทศ
เวเนซุเอลานั้นกำลังประสบปัญหาวิกฤติทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่า ประธานาธิบดีมาดูโรเพิ่งจะประกาศปรับคณะรัฐมนตรี มีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีในตำแหน่งสำคัญๆ หลายตำแหน่ง เช่น รัฐมนตรีกลาโหม และรัฐมนตรีกิจการภายใน มีการเปลี่ยนตัวผู้ว่าการธนาคารชาติด้วย แต่ นสพ.อ้างการวิเคราะห์ของการากัส โครนิเคิลส์ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ไม่น่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นมากนัก เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงภายใต้แนวทางเดิม ตัวบุคคลในบางส่วนเป็นการหมุนเวียนคนเก่าเข้ารับตำแหน่งใหม่ ส่วนผู้ว่าการธนาคารชาติคนใหม่ก็ไม่น่าจะทำอะไรต่างไปจากเดิมที่ใช้มาตรการพิมพ์ธนบัตรออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีส่วนทำให้เงินเฟ้อถึง 2,500% ในเวลานี้ จึงเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงใน ครม.เป็นเพียงแค่ความพยายามจะอยู่ในอำนาจต่อไป
สภาพเศรษฐกิจของเวเนซุเอลาที่ดูจะมีปัญหาอย่างหนัก ทำให้มีสื่อหยิบเรื่องราวของการที่เงินสกุลโบลิวาร์ค่าตกมานำเสนอ พ่อค้าแม่ค้าบางรายให้สัมภาษณ์ว่าค่าเงินตกจนแทบไม่มีความหมาย ประชาชนจำนวนหนึ่งต้องออกไปแสวงหางานที่โคลัมเบียเนื่องจากในบ้านไม่มีงาน ผู้สื่อข่าวพบว่าในตลาดมีชาวเวเนซุเอล่านำธนบัตรใบละ 100 โบลิวาร์ไปพับและสานเป็นสิ่งของ เช่น กระเป๋าขาย กระเป๋าบางใบใช้เงินถึง 100,000 โบลิวาร์ในการทำ แต่เงินทั้งหมดนั้นเมื่อคำนวณแล้วพบว่ามีมูลค่าเทียบเท่ากับ 17 เซ็นต์ของหนึ่งดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น ในขณะที่กระเป๋ามีราคาใบละ 13 ดอลลาร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: