ไม่พบผลการค้นหา
จีนตั้งเป้าลดราคายารักษาโรค เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้มากขึ้น แต่ประชาชนจำนวนมากก็ยังกังวลเกี่ยวกับการลดคุณภาพของยารักษาด้วย

เมืองซันหมิง ในมณฑลฝูเจี้ยนของจีนได้กลายเป็นต้นแบบเมืองที่สามารถตัดลดงบประมาณด้านสาธารณสุขและค่ายารักษาโรค เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้มากขึ้น และทางการจีนเตรียมใช้โมเดลของเมืองซันหมิงกับเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศ

ในปี 2014 ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขของจีนเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าจากช่วง 10 ปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราเติบโตที่สูงกว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจเสียอีก เนื่องจากสังคมสูงวัยของจีนสูงขึ้นและประชาชนก็ป่วยด้วยโรคเรื้อรังกันมากขึ้น ขณะที่โรงพยาบาลก็แก้ไขปัญหางบประมาณจากภาครัฐไม่เพียงพอด้วยการขายยายี่ห้อดังในราคาสูง ส่วนประกันสุขภาพที่รัฐสนับสนุนก็สามารถเบิกได้ไม่มากนัก ผู้ป่วยจึงต้องจ่ายค่ายารักษาเองมากกว่า 1 ใน 3 ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด

เมืองซันหมิงประสบปัญหาสังคมสูงวัยก่อนเมืองอื่นๆ ในจีน โดยปี 2011 มีเด็ก คนสูงวัย และคนว่างงานต่อคนที่มีรายได้คิดเป็นสัดส่วน 50:50 และมีค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขประมาณ 30 ล้านดอลลาร์หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ของรายได้ทั้งหมดของเมือง รัฐบาลท้องถิ่นเมืองซันหมิงจึงพยายามแก้ปัญหาค่ารักษาพยาบาลแพงด้วยการยุบ รวมสำนักงานจัดการโรงพยาบาล จัดหายารักษาโรค และประกันสุขภาพไว้ด้วยกัน พิจารณาเงินเดือนของผู้บริหารจากจำนวนเงินที่ผู้บริหารสามารถตัดลดค่าใช้ จ่ายได้ รวมถึงเปลี่ยนจากการจ่ายยาราคาแพงของบริษัทยาข้ามชาติมาเป็นยาสามัญของท้องถิ่นที่มีราคาถูกกว่า รวมถึงปราบปรามแพทย์ที่รับสินบนจากตัวแทนจำหน่ายยาชื่อดังต่างๆ

รัฐบาลท้องถิ่นซันหมิงเจรจากับบริษัทยาโดยตรง จนสามารถกดดันให้ลดราคายาลงมา เช่นยา exemestane ที่ใช้รักษามะเร็งเต้านม ราคาร่วงจากประมาณ 3,400 บาทลงมาอยู่ที่ประมาณ 700 บาทต่อกล่อง จนมีการนำโมเดลนี้ไปใช้ในเมืองอื่นในมณฑลฝูเจี้ยนและเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขของเมืองซันหมิงก็ทำให้เมืองประสบปัญหาขาด แคลนยาอย่างมากในช่วงปี 2014 เนื่องจากผู้ผลิตยาหลายรายเลิกขายยาในเมืองซันหมิง บริษัทยาข้ามชาติต่างไม่พอใจที่มีการกดดันราคายาลงมาก ส่วนแพทย์หลายคนก็ย้ายออกจากเมืองเพื่อหนีการปราบปรามคอรัปชั่น

หลินเสี่ยงฉิง แพทย์ในเมืองฝูโจวเปิดเผยว่า ประชาชนในพื้นที่ก็ไม่ค่อยมั่นใจยาของท้องถิ่น ทำให้ร้านขายยานำยาราคาแพงมาขายให้กับผู้ป่วยที่ไม่สามารถหาซื้อยาราคาแพง ได้จากโรงพยาบาลอีกต่อไป และตัวเขาเองก็มักถามคนไข้ว่ากล้ากินยาราคาถูกมากเช่นนี้หรือไม่ หากไม่กล้ากินก็ให้ไปหายาที่ดีกว่านี้ในร้านขายยา เช่น กรดอะมิโนขวดหนึ่งราคาถูกกว่าน้ำแร่หนึ่งขวด ด้วยเหตุนี้ ตัวแทนจำหน่ายยาให้กับโรงพยาบาลจำนวนมากจึงผันตัวมาเปิดร้านขายยาแทน

แม้ประชาชนจำนวนหนึ่งจะชื่นชมความสำเร็จของรัฐบาลท้องถิ่นเมืองซันหมิงว่า สามารถลดค่ายารักษาโรคลงได้มาก แต่หลายคนก็มองว่ารัฐไม่มีความพยายามที่จะจ่ายเงินเพื่อให้ประชาชนได้รับการ รักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ และการลดค่ายาก็ทำให้โรงพยาบาลหลายแห่งไปเพิ่มค่าให้บริการแทน โดยผู้ป่วยคนหนึ่งเปิดเผยว่า การพบแพทย์ต้องเสียค่าบริการ 240 บาท แต่ประกันสุขภาพสามารถเบิกค่าบริการได้เพียง 90 บาทเท่านั้น ยิ่งปฏิรูปด้านสาธารณสุขก็ดูเหมือนจะยิ่งทำให้ประชาชนต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น แต่การรักษากลับไม่มีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ นายอเล็กซ์ เหอ ผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันสุขภาพจาก Education University of Hong Kong ยังระบุว่าแผนการปฏิรูปของเมืองซันหมิงไม่เหมาะกับเมืองใหญ่ๆของจีน เนื่องจากคนชนชั้นกลางและสูงไม่ต้องการลดคุณภาพการรักษา เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการรักษาเหมือนเมืองที่คนค่อนข้างจนกว่า