ไม่พบผลการค้นหา
ศ.สุชาติ​ โต้ ผู้ว่าแบงก์ชาติ​ ที่พูดว่า 'เงินเฟ้อต่ำไม่ได้ฉุดรั้งเศรษฐกิจ' น่าจะเข้าใจไม่ถูก​ เพราะเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป​ ทำให้ค่าเงินบาทแข็ง​ ส่งออกลดลง​ ทำให้เศรษฐกิจไทยไม่เติบโต​ รัฐควรทำ​ให้เงินเฟ้อเป็น​ ​3-4% จึงจะฟื้นเศรษฐกิจไทยได้

ศาสตราจารย์​ ดร. สุชาติ​ ธาดาธำรงเวช​ อดีตรัฐมนตรี​ว่าการ​กระท​รวงการคลัง​ กล่าวว่า​ ผู้ว่าแบงก์ชาติ ออกมาพูดว่า​ "เงินเฟ้อต่ำไม่ได้ฉุด​รั้งเศรษฐกิจ" ท่านน่าจะเข้าใจปรัชญาการบริหารระบบ​เศรษฐกิจไม่ถูกต้อง อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ​เกินไป​ เช่น​ 1% ถึง​ติดลบ​ จะทำให้ค่าเงินบาทแข็งขึ้นไปเรื่อยๆ​ เพราะอัตราแลกเปลี่ยนไทย​ (e=Pt/Pw)​ มีค่าเท่ากับราคาสินค้าไทย (Pt)​ หารด้วยราคาสินโลก (Pw)​ เมื่อราคาสินค้าไทย​ เพิ่มขึ้นช้ากว่าราคาสินค้าโลก​ ก็ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นไปเรื่อยๆ​ ซึ่งเป็นเวลา​กว่า 10 ปีมาแล้ว​ ตัวอย่างเช่น​ เงินบาทไทยแข็งกว่าเงินดองเวียดนาม​ 1.6 เท่า, แข็งกว่าเงินรูปีอินเดีย​ 2.58 เท่า​ใน​เวลา 20​ ที่ผ่านมา​ ทำให้เวียดนามและอินเดียส่งออกได้มากมาย​ GDP​ เติบโตปีละ​ 6-7% และเงินเฟ้อ​ 3-5% ทำให้ราย​ได้ที่เป็นตัวเงินของประชาชนเพิ่มปีละ​ 9-12%

ในขณะที่ประเทศ​ไทย​ ใช้นโยบายเงินเฟ้อต่ำมากๆ​ ทำให้ค่าเงินบาทแข็งมากๆ​ แข็งกว่าเกือบ​ทุก​ชาติในโลก​ ผลก็คือ​ ส่งออกได้น้อยลงมาก​ ทำให้เศรษฐกิจ​ไทยเติบโตต่ำมาก​ จนไปลดการลงทุน​และการพัฒนา​เทคโนโลยี​ใหม่ๆ​ ประชาชนไทยยากจนลงไปเรื่อยๆ​ 

การที่ ผู้ว่าแบงก์ชาติ สอนนักศึกษาปริญญาโท​-เอก​ ว่า "เงินเฟ้อต่ำไม่ได้ฉุดรั้งเศรษฐกิจ​" ความจริงเราสามารถแสดงโดยสมการคณิตศาสตร์​ข้างบนว่า เงินเฟ้อต่ำ​ ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น​ การส่งออกและท่องเที่ยวลดลง มาลด​รายได้ประเทศ (GDP)​ ทำให้การใช้กำลังการผลิต (Capacity)​ ลดลง​ จึงมาลดการ​ลงทุน​ใหม่ ลดการพัฒนาเทคโนโลยี​ใหม่ๆ​ ทำให้เศรษฐกิจ​ไทย​ ล้าหลังไม่เจริญเติบโต​ ประชาชนยากจน​ เป็นเช่นนี้มานานกว่​า​ 10 ปีแล้ว​ เหตุการณ์​เช่นนี้เกิดขึ้นในญี่ปุนหลังเซ็น​ Plaza accord ปี​ 1985 ค่าเงินเยน​แข็งขึ้นมากๆ​ ทำให้เศรษฐกิจ​ญี่ปุ่นซบเซาไม่เจริญเติบโตเป็นเวลานานมาก

การบริหารประเทศจึงต้องเข้าใจปรัชญา​เศรษฐกิจ​มหภาคให้รู้แจ้ง​ หากไม่เห็นแจ้ง​ จะทำให้ประเทศไม่เจริญ​ ประชาชนยากจน​ น่าสงสารพี่น้องประชาชนมากๆ​ ครับ