คนไทยอาจเริ่มรู้สึกถึงอากาศเย็นที่เข้ากระทบผิวหนังในช่วงเช้าของวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับการคาดหมายลักษณะอากาศ 7 วันข้างหน้า (11 - 17 ม.ค.) จากกรมอุตุนิยมวิทยา ที่ระบุว่า อากาศอาจต่ำถึง 7 องศาเซลเซียส ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ระหว่างวันที่ 11 - 13 ม.ค.นี้ 

อย่างไรก็ตาม เมื่อไล่เลียงสภาพอากาศในช่วงสัปดาห์นี้ พบว่า ภาคเหนือบริเวณยอดดอยอาจมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ส่งให้อุณหภูมิอาจต่ำถึง 3 องศาเซลเซียส ขณะที่บริเวณพื้นที่ทั่วไปมีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 10 - 18 องศาเซลเซียส สูงสุด 18 - 32 องศาเซลเซียส 

ภาคกลางอุณหภูมิลดลงประมาณ 3 - 5 องศาสเซลเซียส โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 17 - 22 องศาเซลเซียส ขณะที่กรุงเทพมหานครและปริมลฑล อุณหภูมิต่ำสุด 16 องศาเซลเซียส ระหว่างวันที่ 11 - 13 ม.ค.ก่อนปรับขึ้น 1 - 3 องศาเซลเซียสช่วงที่เหลือ 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด บริเวณยอดภูอาจเจออุณหภูมิต่ำถึง 4 องศาเซลเซียสระหว่างวันที่ 11 - 13 ม.ค.นี้ ก่อนปรับตัวขึ้นเล็กน้อยไปอยู่ระหว่าง 8 - 14 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 14 - 16 ม.ค. ขณะที่บริเวณทั่วไปของภูมิภาค อาจเจออุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 7 - 15 องศาเซลเซียส 

ภาคตะวันออกมีอากาศใกล้เคียงกับภาคกลางและกรุงเทพฯ โดยอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 17 - 22 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 11 - 13 ม.ค. ก่อนปรับสูงขึ้นราว 1 - 3 องศาเซลเซียสในช่วงหลัง ซึ่งอาจเจออุณหภูมิสูงถึง 32 - 34 องศาเซลเซียส 

สำหรับภาคใต้ฝั่งตะวันตกอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ราว 22 - 25 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองประมาณ 10% - 20% ของพื้นที่ ขณะที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออกซึ่งมีอุณหภูมิใกล้เคียงกัน จะเจอฝนมากกว่า หรือประมาณ 20% - 40% ของพื้นที่ระหว่างวันที่ 11 - 13 ม.ค.ก่อนเปลี่ยนเป็น 20% - 30% ของพื้นที่ ระหว่างวันที่ 14 - 16 ม.ค.  

ที่มา; กรมอุตุนิยมวิทยา

ฝุ่นหน้าหนาว 

สอดคล้องกับสถานการณ์สภาพอากาศ ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) ชี้ว่า สถานการณ์ PM 2.5 ในช่วงที่ผ่านมาโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี - ดีมาก ตามข้อมูลของวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ อากาศดีมาก โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรวจวัดได้ 10 – 28 มคก./ลบ.ม. และภาคใต้ ตรวจวัดได้ 6 - 25 มคก./ลบ.ม.

ขณะที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีตรวจวัดได้ 19 - 50 มคก./ลบ.ม. และภาคตะวันออก ตรวจวัดได้ 22 - 31 มคก./ลบ.ม.รวมทั้งภาคกลางและตะวันตก โดยตรวจวัดได้ 6 - 47 มคก./ลบ.ม. 

อย่างไรก็ดี พื้นที่ในจังหวัดตากและเชียงใหม่ต้องมีการเผ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 เนื่องจากพบค่าฝุ่นในระดับที่เกิดมาตรฐาน ซึ่งคาดว่ามาจากการเผาไหม้