ไม่พบผลการค้นหา
'อรรถวิชช์' แนะกรุงเทพมหานคร สั่ง 'บีทีเอส' แก้ปัญหาคลื่นสัญญาณควบคุมรถไฟฟ้าขัดข้อง - ตรวจเช็คสภาพรถ หวั่นเกิดอุบัติเหตุ ขอให้คำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้ กทม. สั่ง บริษัทระบบขนส่งมวลชน จำกัด (มหาชน) (BTS) ผู้ได้รับสัมปทานบริหารการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว หรือ สายสุขุมวิท และ สายสีลม ที่เปิดใช้บริการมากว่า 18 ปี เร่งปรับระบบอาณัติสัญญาณควบคุมการเดินรถ เพื่อรองรับการย้ายไปใช้ช่องสัญญาณช่วง 800 – 900 เมกะเฮิร์ต ที่ กสทช. จัดเตรียมไว้ให้ใหม่ เพราะปัจจุบันนี้ บีทีเอส ใช้สัญญาณช่วง 2,400 – 2,500 เมกะเฮิร์ต ตรงกับช่วง “คลื่นฟรี” ที่เปิดให้ประชาชนใช้โดยไม่ต้องขออนุญาต อาทิ Wi-Fi อุปกรณ์เชื่อมต่อไร้สายต่างๆ ทำให้ในช่วงหลังมานี้รถไฟฟ้าเกิดขัดข้องบ่อยครั้ง เพราะช่วงสัญญาณนี้มีประชาชนใช้เพิ่มขึ้นมาก จึงกระทบการเดินรถ

“เดิมปี 2556 , 2557, 2558 เกิดปัญหาแค่ 2, 5, 2 ครั้งตามลำดับ แต่อัตราพุ่งสูงมากในปี 2559 เกิดปัญหา 24 ครั้ง ในปี 2560 เกิดปัญหา 46 ครั้ง และจนปี 2561 ปัญหามีมากจนนับไม่ถูก บางสัปดาห์หลายหน โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน เช้าและเย็น ถึงขนาดบีทีเอส ต้องเปิดให้ดาวน์โหลดแบบฟอร์มรับรองการเข้างานสายกันเลยทีเดียว” นายอรรถวิชช์ กล่าว

นอกจากนี้ ช่วงเช้าวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา ขบวนรถหมายเลข 14 ยังเกิดประตูขัดข้อง ออกจากสถานีหมอชิตไปทั้งที่ ประตูปิดไม่ได้ แม้จะเป็นเหตุการณ์เพียง 2 นาที แต่สะท้อนถึงความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง บีทีเอส เร่งต้องตรวจเช็คสภาพอุปกรณ์และขบวนรถอย่างละเอียด

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า บีทีเอส จะให้บริการ ความสะดวก ความปลอดภัยที่ต่ำกว่ามาตรฐานไม่ได้ กทม. ต้องกำกับให้ผู้รับจ้างปฏิบัติตามสัญญาจ้างบริหารอย่างเคร่งครัด เรื่องความปลอดภัยและการเดินรถมันต้องเป็นระบบอัตโนมัติเป็นหลัก ไม่ใช่เป็นการควบคุมด้วยมือ ไม่เช่นนั้นรถก็จะช้าไม่เป็นตามตารางเดินรถ และอันตรายด้วย ส่วนค่าปรับเงิน ปรับกันจริง หรือยัง รวมจำนวนเท่าไร และการย้ายคลื่นความถี่ บีทีเอส รับผิดชอบค่าใช้จ่ายอย่างไร ต้องรีบสรุป สำคัญต้องคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก เพราะไม่ใช่แต่รถไฟฟ้ามาช้าแล้วไปทำงานสาย แต่มันคือความปลอดภัยในชีวิตของคน กทม. และผู้มาเยือนด้วย