สำนักข่าว KCNA ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ รายงานว่านายคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ให้การต้อนรับคณะผู้แทนเกาหลีใต้ที่เดินทางกรุงเปียงยางอย่างสมเกียรติในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ทำเนียบรัฐบาล รวมถึงมีการคุยกันอย่าง "เปิดใจ" และนายคิมยังถึงกับประกาศยืนยันว่าเขาต้องการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับใต้ให้แน่นแฟ้นใกล้ชิดยิ่งขึ้น และต้องการสร้าง "ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการรวมชาติ"
การเดินทางเยือนเกาหลีเหนือของคณะผู้แทนเกาหลีใต้ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่นายคิมขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ โดยคณะผู้แทนนี้ประกอบด้วยตัวแทนระดับสูงจากเกาหลีใต้ 10 คน รวมถึงรัฐมนตรี 2 คน ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองและที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของเกาหลีใต้
รั้วลวดหนามที่อิมจินกัก ชายแดนระหว่าเกาหลีเหนือและใต้ เต็มไปด้วยริบบิ้นข้อความจากชาวเกาหลีใต้ เรียกร้องความหวัง สันติภาพ และการรวมชาติ
คณะผู้แทนนี้มีหน้าที่หลักคือการเจรจาเงื่อนไขในการจัดการประชุมสุดยอดระหว่างนายคิมและนายมุนแจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งในเบื้องต้น สำนักข่าว KCNA เปิดเผยว่านายคิมเห็นด้วยกับความต้องการของนายมุนที่จะมีการเจรจาโดยตรงระหว่างผู้นำสองเกาหลี เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกัน นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังพยายามสานสัมพันธ์เพื่อนำไปสู่การเจรจาระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือด้วย โดยหลังจากการเยือนเกาหลีเหนือเป็นเวลา 2 วัน ตัวแทนเกาหลีใต้จะเดินทางไปยังสหรัฐฯ เพื่อบรรยายสรุปผลการเจรจากับเกาหลีเหนือให้แก่รัฐบาลสหรัฐฯ ก่อนจะเดินหน้าสู่การเจรจาขั้นต่อไป
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯยืนยันว่ามีความเห็นในเชิงบวกต่อการกระชับสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ แต่ยังระมัดระวังท่าทีของเกาหลีเหนือ และย้ำว่าจะไม่ยอมร่วมโต๊ะเจรจาจนกว่าเกาหลีเหนือจะยอมปลดอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นข้อเสนอที่เกาหลีเหนือไม่ยอมรับอย่างเด็ดขาด
ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือตึงเครียดอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และมีวาทะยั่วยุนายคิมจองอึนอยู่เสมอ แต่ในทางตรงข้าม นายมุนแจอิน ผู้นำเกาหลีใต้ ถูกจับตามองว่าจะเป็นผู้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ 2 เกาหลีได้ เนื่องจากเขาเป็นลูกของผู้ลี้ภัยเกาหลีเหนือ และหาเสียงจนได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งด้วยนโยบายฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ
ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 เกาหลีดีขึ้นอย่างชัดเจนหลังจากเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา นายคิมประกาศว่าพร้อมเข้าร่วมโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองพยองชาง เกาหลีใต้ และเกาหลีใต้ก็ตอบรับ จนนำไปสู่การเข้าร่วมโอลิมปิกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่ง 2 เกาหลีได้ร่วมแข่งกีฬาฮ็อกกี้น้ำแข็งทีมเดียวกัน และเดินพาเหรดใต้ร่มธงเดียวกัน ก่อนจะนำไปสู่การส่งผู้แทนเกาหลีใต้เยือนเกาหลีเหนือครั้งล่าสุด
