ไม่พบผลการค้นหา
ผบ.ศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายฯ แจงปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่า หลังผ่านเวลามากว่า 6 ชั่วโมง เผยต้องประเมินสภาพร่างกายเด็กก่อนทยอยนำออกมาจากถ้ำ ยังระบุไม่ได้ว่าต้องใช้ระยะเวลาเท่าใด ขณะที่ฝนเริ่มตกหนัก ผกก.สภ.เชียงรายแจ้งปิดถนนหน้า รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ กำชับเข้มห้ามสื่อ-เจ้าหน้าที่รพ.-ประชาชนถ่ายภาพขณะเคลื่อนย้าย

เมื่อเวลา 16.30 น. (8 ก.ค.) นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย (ผอ.ศอร.) เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุด ว่านักดำน้ำนานาชาติและหน่วยซีล รวม 13 คน ได้เริ่มปฏิบัติการเข้าไปช่วยเหลือนำทีมนักฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีออกจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยในจำนวนนี้ 10 คน ได้ไปประจำที่จุด 9 (จุดที่น้องอยู่) และจุด 6 (จุดกลางทางใกล้สามแยก) ตามแผนงาน เพื่อเริ่มกระบวนการนำเด็กออกจากถ้ำ ส่วนอีก 3 คน ทำงานสนับสนุนการช่วยเหลือเด็ก โดยได้เริ่มดำน้ำตามแผนตั้งแต่เวลา 14.00 น. 

นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยอีกจำนวนหนึ่ง นักประดาน้ำ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เชี่ยวชาญการกู้ภัยจากไทย สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย จีนและยุโรป ประจำการอยู่ที่บริเวณโถงหมายเลข 3 จนถึงปากถ้ำ ทั้งนี้ มีการวางระบบรอก เพื่อสนับสนุนการนำเด็กออกจากถ้ำในบริเวณโถงหมายเลข 2 และ 3 ซึ่งมีสภาพพื้นที่ที่มีความยากลำบาก

ทั้งนี้ เนื่องจากความซับซ้อนและยากลำบากของสภาพภายในถ้ำ จึงยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะใช้เวลาเท่าใด ที่จะสามารถนำเด็กชุดแรกออกจากถ้ำได้ โดยนักประดาน้ำจะทำงานร่วมกับแพทย์ ภายในถ้ำ เพื่อประเมินสภาพร่างกายของเด็กๆ และพิจารณาความเหมาะสมว่าเด็กคนไหนจะถูกนำตัวออกมาเป็นชุดแรก เนื่องจากความซับซ้อนของถ้ำและความยากของการปฏิบัติการ จึงยังไม่สามารถระบุได้ว่าเด็กกี่คนจะสามารถออกจากถ้ำในการดำเนินการครั้งแรก

ขณะที่ ไลน์ 'ข่าวจริงประเทศไทย' ซึ่งจัดทำโดยกรมประชาสัมพันธ์ เผยแพร่แผนภาพวิธีการ 'ดำน้ำ' ออกจากถ้ำหลวงของทีมหมูป่า จากเนินนมสาว (จุดที่ 13 คนอยู่) ถึงโถง 3 และปากถ้ำ โดยมีเจ้าหน้า 2 นาย ประกบเด็ก 1คน พร้อมอุปกรณ์ถังอากาศ และหน้ากากดำน้ำแบบเต็มหน้า แต่หากพบช่องที่แคบมาก จะปลดถังอากาศออกจากหลัง แล้วค่อยๆ กลิ้งถังและพาผู้ร่วมทางออกไปตามช่องจากโถง 3 ถึงปากถ้ำด้วยการเดินเท้า


แผนผังลำเลียง-หมูป่าอะคาเดมี-ถ้ำหลวง


สภ.เมืองเชียงรายปิดถนนรอบเวียง -ห้ามถ่ายภาพเด็ดขาด

พ.ต.อ.กิตติพงษ์ สุขวัฒนพันธ์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย แจ้งกับผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวหน้าโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ อ.เมือง จ.เชียงราย ว่า ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป เจ้าหน้าที่จะปิดถนนรอบเวียง ตั้งแต่สี่แยกไฟแดงด้านหลังโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ไปจนถึงสี่แยกไฟแดงสันโค้ง ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย โดยห้ามบรรดาผู้สื่อข่าวบันทึกภาพเด็ดขาด แม้กระทั่ง แพทย์พยาบาลและชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบห้ามมีการถ่ายภาพโดยเด็ดขาด แม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือ หากมีการฝ่าฝืนจะถูกยึด พร้อมกันนี้จะมีการปิดโรงเรียนสันโค้ง และเขตพื้นที่การศึกษาเชียงรายเขต 1

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า จะให้ผู้สื่อข่าวไปอยู่ที่บริเวณโรงเรียนบ้านเด่นห้า ซึ่งห่างจากโรงพยาบาลไปเล็กน้อย ส่วนผู้ที่จะมาส่งผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลจะมีการจัดประตูให้เข้าอีกทางหนึ่งซึ่งไม่ใช่ด้านหน้าบริเวณที่จะนำเด็ก ๆ ทีมหมูป่าเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล

ฝนตกหนักตั้งแต่บ่าย 3 โมง

เมื่อเวลา 15.20 น. หน้าที่ทำการ อบต.โป่งผาง อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีฝนตกลงมาอย่างหนัก โดยสื่อมวลชนยังปักหลักรอการแถลงรายงานความคืบหน้าปฏิบัติการกู้ภัยทีมหมูป่าอะคาเดมี่จากศูนย์อำนวยการร่วมฯ ภายในเต้นท์ที่หน่วยงานได้จัดไว้ให้ ขณะที่บางส่วนได้ย้ายมาหลบฝนข้างอาคารราชการ ซึ่งเป็นที่ตั้งของฌาปนสถาน โดยสื่อมวลชนบางกลุ่มได้กระจายตัวเฝ้ารอสถานการณ์ตามสถานที่ที่ถูกระบุให้เป็นจุดลำเลียงผู้ประสบภัยทั้ง บริเวณลานจอดเฮลิคอปเตอร์โรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์ 5 รวมถึงโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ซึ่งจะเป็นสถานที่ทำการรักษา


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :