นายไมเคิล บลูมเบิร์ก มหาเศรษฐีชาวอเมริกันและอดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก เปิดเผยว่าเขายินดีจ่ายเงิน 4.5 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 135 ล้านบาท เพื่อชดเชยกับเงินที่หายไปจากการที่สหรัฐฯโดยการตัดสินใจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี ขอถอนตัวจากข้อตกลงปารีสว่าด้วยการับมือสภาพการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ ซึ่งการตัดสินในดังกล่าวที่มีขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2017 ทำให้สหรัฐฯเป็นประเทศเดียวในโลกที่ไม่ได้เข้าร่วมข้อตกลงสำคัญนี้
นายบลูมเบิร์กระบุว่าในฐานะที่เขาเป็นพลเมืองอเมริกัน เขารู้สึกว่าตนเองต้องรับผิดชอบต่อการที่สหรัฐฯถอนตัวจากข้อตกลงปารีส ทำให้เงินสมทบทุนโครงการรณรงค์เรื่องโลกร้อนต้องขาดไป ในเมื่อเขามีศักยภาพพอจะจ่ายเงินชดเชยส่วนที่ขาดหายไปได้ จึงยินดีที่จะทำ โดยเงินจำนวน 135 ล้านบาทนี้จะถูกสั่งจ่ายเป็นเช็ก ให้กับอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ UNFCCC ซึ่งเป็นเวทีนานาชาติที่ใช้หารือวิธีการรับมือสภาวะโลกร้อน
เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา Bloomberg Philanthropies องค์กรการกุศลของนายบลูมเบิร์ก ก็ได้เสนอมอบเงิน 15 ล้านดอลลาร์ เพื่อชดเชยกับงบประมาณที่ขาดไปในการรณรงค์ต่อสู้กับสภาวะโลกร้อนเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม นายบลูมเบิร์กหวังว่าภายในปีหน้า รัฐบาลทรัมป์จะเปลี่ยนใจกลับมาเข้าร่วมข้อตกลงปารีสอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคม นายทรัมป์ยอมรับว่าเขาไม่ได้มีปัญหากับเนื้อหาของข้อตกลงปารีสโดยรวม แต่ไม่พอใจที่รัฐบาลของนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีคนก่อน ทำสัญญาที่มีเนื้อหาทำให้สหรัฐฯฌสียเปรียบในการปฏิบัติตามข้อตกลงนี้ และสหรัฐฯอาจเปลี่ยนใจเข้าร่วมข้อตกลงปารีส หากมีการตกลงกันใหม่ที่เป็นธรรมกับสหรัฐฯมากกว่านี้