นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส. นครพนม พรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ใช่จังหวะเวลาแก้รัฐธรรมนูญ แม้จะเป็นนโยบายเร่งด่วน ขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งทำงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเรียกได้ว่าขยันกันอย่างตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน้อตนั้น

นายชวลิต เห็นว่า แม้จะขยันทุ่มเทเพียงใดก็ตาม แต่ถ้าเดินผิดทาง ไม่ได้แก้ที่หัวใจของปัญหา คือ สร้างความเชื่อมั่นประเทศให้กติกาบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ก็จะเสียทั้งเวลา เสียทั้งงบประมาณ ลองมองย้อนดูอดีต 5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลนี้ทุ่มเทงบประมาณถึง13 ล้านล้านบาท มากกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมา แต่ทำไมคนจนกลับเพิ่มมากขึ้น จาก 8 ล้านคน เป็น 14.5 ล้านคน และกำลังจะเพิ่มขึ้น ๆ หากไม่รีบสร้างความเชื่อมั่นประเทศ ขณะนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อนแสนสาหัสในปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง

สำหรับหัวใจของปัญหา คือ ระบบการเมืองที่ไม่ได้รับความเชื่อมั่น ไม่มีเสถียรภาพ ไม่มีเกียรติยศ ใครจะมาค้า ใครจะมาลงทุน มีแต่จะย้ายฐานหนีตาย หนีไปประเทศเพื่อนบ้านเท่าไหร่แล้ว ยังไม่รู้สึกรู้สาดีแต่หวงอำนาจ สืบทอดอำนาจ ประเทศชาติประชาชนจะเป็นอย่างไรก็ช่าง

ลองประกาศดูสิ รัฐบาลจะดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วนที่แถลงไว้ใน ข้อ 12 ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตราใดบ้าง แก้กติกาให้เป็นธรรม เป็นประชาธิปไตย บอกไทม์ไลน์ให้ชัดเจน ทำควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องความเชื่อมั่นก็จะค่อย ๆ กลับคืนมาทุกวันนี้กติกามันผิดเพี้ยน

เช่น จากนี้ไปใน 5 ปี ส.ว.ที่ท่านตั้งมากับมือ ยังมีสิทธิ์เลือกนายกรัฐมนตรีตามใบสั่งของท่านได้ พรรคการเมืองยังมีมากมาย เป็นพรรคเล็ก พรรคน้อย เป็นเบี้ยหัวแตก จะตั้งรัฐบาลทีก็เคาะกะลากันที แย่งชามข้าวแย่งตำแหน่งกัน ความรู้ ความสามารถในตำแหน่ง ผิดฝา ผิดตัว กันไปหมด แล้วจะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้อย่างไร

"ผมเห็นว่า การสร้างกติกาบ้านเมืองให้เป็นธรรม เป็นประชาธิปไตย มีเสถียรภาพ ความเชื่อมั่นประเทศจะกลับคืนมา ส่งผลให้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องก็จะถูกที่ ถูกทาง ในที่สุด"