ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันสถานพยาบาลประเภทไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนหรือคลินิก โดยเฉพาะคลินิกที่ให้บริการเสริมความงามส่วนใหญ่มักจะมีการศัลยกรรมเสริมความงามในรูปแบบต่างๆ อาทิ การเสริมจมูก เสริมหน้าอก ปรับรูปหน้าVShape ฯลฯ ซึ่งบริการเสริมความงามดังกล่าวล้วนต้องกระทำในห้องผ่าตัด ซึ่งห้องผ่าตัดประจำคลินิกไม่ว่าจะเป็นห้องผ่าตัดขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่จะต้องขออนุญาตกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ก่อน และจะต้องจัดให้มีเตียงพักฟื้น 1.5 เตียงต่อ 1 ห้องผ่าตัด
หากคลินิกมีห้องผ่าตัด 1 ห้อง จะต้องมีเตียงพักฟื้น 2 เตียงและหากมีห้องผ่าตัด 2 ห้องจะต้องมีเตียงพักฟื้น 3 เตียงเพื่อดูอาการผู้ป่วยหลังผ่าตัดให้มีความปลอดภัยโดยให้ผู้ป่วยพักฟื้นที่คลินิกในช่วงระยะเวลาที่คลินิกขออนุญาตดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้แนวโน้มที่ประชาชนจะเข้ารับบริการศัลยกรรมเสริมความงามจากคลินิกมีมากขึ้นในทุกๆ ปี สิ่งที่น่าเป็นกังวลคือการที่คลินิกให้ผู้ป่วยพักฟื้นเกินระยะเวลาที่ขออนุญาต หรือค้างคืนที่คลินิก อาจจะด้วยผู้รับบริการเสียเลือดมากหรือเลือดไม่หยุดไหลจากแผลผ่าตัดหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ถือว่าเป็นการสร้างความเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตของผู้ป่วย เพราะการให้ผู้ป่วยพักฟื้นนอกเวลาทำการหรือค้างคืนเพื่อดูอาการนั้น
ทั้งนี้ สถานพยาบาลจะต้องจัดให้มีผู้ประกอบวิชาชีพคอยดูแล และเฝ้าระวังอาการผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ซึ่งคลินิกอาจจะมิได้เตรียมความพร้อมในด้านบุคลากรและอุปกรณ์ไว้ตลอด 24 ชั่วโมงไม่เหมือนกับโรงพยาบาลทำให้ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะไม่สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที การปล่อยให้ผู้ป่วยพักฟื้นเกินระยะเวลาที่ขออนุญาตหรือปล่อยให้ค้างคืนที่คลินิกจึงเป็นการกระทำผิดกฎหมายสถานพยาบาลฐานประกอบกิจการสถานพยาบาลผิดประเภท หรือผิดลักษณะการให้บริการตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาต ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการจะมีโทษตามกฎหมาย
photo : piron-guillaume-492636-unsplash