จากรายงานยืนยันว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.31 น. ตามเวลาท้องถิ่น อาเบะถูกยิงเข้าที่บริเวณลำคอด้านขวา และหน้าอกด้านซ้าย หลังจากที่อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นขึ้นกล่าวหาเสียงบนเวที เพื่อการเลือกตั้งสภาสูงของญี่ปุ่นที่กำลังจะมาถึง ทั้งนี้ สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า อาเบะล้มลงและหมดสติหลังจากเกิดเสียงปืนดังขึ้นสองนัด และกลุ่มควันของปืนที่ลอยขโมง
มีภาพเปิดเผยถึงวินาทีหลังจากที่อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ถูกยิงจนถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามกู้ชีพอาเบะ ที่นอนหมดสติและจมกองเลือดบริเวณหน้าอกอยู่บนกลางถนน ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดย โนบูโอะ คิชิ น้องชายของอาเบะเปิดเผยว่า อาเบะได้รับการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งหมายรวมถึงการถ่ายเลือดด้วย
ก่อนหน้านี้ มีการรายงานว่าอาเบะเกิดอาการหัวใจหยุดเต้น ระบบทางเดินหายใจหยุดทำงาน และไม่มีสัญญาณชีพตอบสนอง อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมีการตั้งข้อหาฆาตกรรม และการพกพาอาวุธปืน
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าผู้ก่อเหตุ คือ ยามากามิ เทตสึยะ อดีตพลประจำการกองกำลังป้องกันตนเองทางน้ำญี่ปุ่น วัย 41 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองนาระ โดยเทตสึยะใช้อาวุธปืนที่ตนประดิษฐ์ขึ้นเองเพื่อใช้ยิงอาเบะ ปัจจุบันนี้ เทตสึยะกำลังอยู่ในขั้นตอนการสอบปากคำจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ดี หลังจากก่อเหตุยิงอดีตนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าเทตสึยะไม่ได้มีความพยายามในการหลบหนีการจับกุมแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เหตุการณ์การใช้อาวุธปืนในญี่ปุ่นเป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้ยากมาก เนื่องจากญี่ปุ่นมีกฎหมายการควบคุมการใช้อาวุธปืนที่เข้มงวด โดยในปี 2564 ญี่ปุ่นมีรายงานเหตุการณ์ยิงอาวุธปืนเพียงแค่ 10 ราย และในปี 2562 มีรายงานผู้ครอบครองอาวุธปืนถูกกฎหมายในญี่ปุ่นเพียงแค่ 310,400 กระบอกเท่านั้น จากจำนวนประชากรทั้งประเทศกว่า 125 ล้านคน ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า การลอบสังหารอาเบะในครั้งนี้จะเปลี่ยนญี่ปุ่นไป “ตลอดกาล”
อาเบะเดินทางมาถึงนาระเพื่อขึ้นหาเสียงการเลือกตั้งสมาชิกสภาสูงของญี่ปุ่น ที่กำลังจะมาถึงในวันอาทิตย์นี้ ทั้งนี้ ก่อนการถึงแก่อสัญกรรม อาเบะมีกำหนดการเดินทางไปยังเกียวโต และไซตามะ ซึ่งเป็นจังหวัดติดกันกับกรุงโตเกียว โดยหลังจากเกิดเหตุ ผู้นำทั่วโลกต่างแถลงแสดงความเสียใจและตกใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
คิชิดะ ฟูมิโอะ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของญี่ปุ่น รวมถึงรัฐมนตรีคนอื่นๆ ในคณะรัฐมนตรี จะเดินทางกลับมายังทำเนียบนายกรัฐมนตรีโดยด่วน เพื่อเข้าหารือและขึ้นแถลงต่อเหตุการณ์ลอบสังหารอาเบะ ทั้งนี้ ก่อนการถึงแก่อสัญกรรมของอาเบะ ฟูมิโอะยอมรับว่าอาเบะอยู่ในอาการขั้นวิกฤต ก่อนกล่าวว่าแพทย์ “กำลังต่อสู้เพื่อรักษาชีวิต” อดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะอยู่ และย้ำว่าการลอบสังหารนี้ “เป็นการกระทำอันไม่สามารถให้อภัยได้”
“การเลือกตั้งกำลังจัดขึ้น นี่คือรากฐานของประชาธิปไตย และเหตุการณ์อย่างนั้นกลับเกิดขึ้น มันคือความป่าเถื่อนและมุ่งพยาบาท และมันไม่สามารถเป็นที่ยอมรับได้ เราจะทำทุกสิ่งที่เราทำได้ และผมอยากจะขอใช้คำที่หยาบคายรุนแรงที่สุดเท่าที่มี เพื่อประณามการกระทำนี้” ฟูมิโอะกล่าวในการแถลง
อาเบะเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นระหว่างปี 2549 ถึง 2550 และ 2555 ถึง 2563 และเป็นผู้นำคนสำคัญ และสมาชิกอาวุโสของพรรคเสรีประชาธิปไตยของญี่ปุ่นมานานนับทศวรรษ โดยอาเบะได้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อ 2 ปีก่อน ด้วยการให้เหตุผลว่าตนมีปัญหาทางสุขภาพ ซึ่งอาจทำให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้นำประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ทั้งนี้ อาเบะเป็นนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ
อาเบะเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่พยายามเปลี่ยนแปลงสถานะเดิมของประเทศ ด้วยความพยายามในการเสริมกำลังทหารของประเทศ และแก้รัฐธรรมนูญประเทศเพื่อจัดตั้งกองทัพญี่ปุ่นกลับมาอีกครั้ง หลังจากญี่ปุ่นถูกยุบสภาพกองทัพของตนหลังแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ให้เหลือแต่เพียงกองกำลังป้องกันตนเองเท่านั้น
ทั้งนี้ จากการที่จีนและเกาหลีเหนือเริ่มขยายอิทธิพลของตนเองในภูมิภาค ส่งผลให้อาเบะเริ่มหาแนวทางในการรื้อฟื้นกองทัพญี่ปุ่น เพื่อตอบรับกับภัยคุกคามในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เพิ่มสูงขึ้น รัฐบาลของอาเบะยังคอยให้การสนับสนุนไต้หวันอยู่เนืองๆ ด้วย อาเบะยังเป็นนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นที่เป็นที่จดจำของโลกในช่วงหลัง 2 ทศวรรษหลังมานี้
ที่มา:
https://www.nytimes.com/live/2022/07/08/world/japan-shinzo-abe-shooting