เฮนิเชสค์เป็นเมืองที่ถูกกองทัพรัสเซียเข้ายึดจากการส่งกองทัพของตนเข้ามาจากทางไครเมีย ตั้งแต่ช่วงสงครามการรุกรานยูเครนของรัสเซียปะทุขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยรัสเซียอ้างเหตุผลของการเข้ารุกรานยูเครนว่าต้องการถอนระบอบนาซีออกจากประเทศเพื่อนบ้านของตน อย่างไรก็ดี มีการตั้งข้อสังเกตว่าการนำรูปปั้นเลนินและธงโซเวียตมาประดับในเมืองของยูเครนที่ถูกยึด เป็นความพยายามในการสร้างความชอบธรรมจากเหตุผลที่รัสเซียได้เคยอ้างถึงการรุกรานยูเครนเอาไว้
“พวกมึงมาทำอะไรกันที่นี่” ภาพวิดีโออันโด่งดังของหญิงชาวยูเครนรายหนึ่งเดินเข้าไปด่าทอต่อทหารของรัสเซีย “ไอ้พวกรุกราน ไอ้พวกฟาสซิสต์ พวกแกเข้ามาในแผ่นดินของฉันโดยไม่มีคำเชิญ” หญิงรายดังกล่าวยื่นถุงเมล็ดพันธุ์ให้กับทหารรัสเซีย “นี่มันคือถุงทานตะวันที่จะงอกออกมาเมื่อคำโกหกของแกตกลงสู่พื้นตรงนี้ นับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปแกจะถูกสาปแช่ง ไอ้ห่าเอ้ย”
แต่ถึงแม้ว่าประชาชนชาวแคร์ซอนของยูเครนจะไม่ได้ยินยอมพร้อมใจให้รัสเซียเข้ายึดบ้านเกิดของตน เฮนิเชสค์กำลังจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนที่รัสเซียอ้างว่าคือ “สาธารณรัฐประชาชนแคร์ซอน” โดย โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนอ้างว่า วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียมีความพยายามในการจัดการทำประชามติปลอมขึ้น เพื่อแยกพื้นที่ทางตอนใต้ของยูเครนออกไป และผนวกรวมเข้ากับรัสเซียในภายหลัง
รัสเซียเคยใช้วิธีการดังกล่าวกับพื้นที่ของโดเนตสค์และลูฮันสค์ ด้วยการเปิดการทำประชามติปลอม หลังจากกลุ่มแบ่งแยกดินแดนของยูเครนในพื้นที่ดอนบาสที่รัสเซียให้การหนุนหลังสามารถควบคุมพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนได้ ผลการทำประชามติครั้งนั้นระบุออกมาว่ากลุ่มแบ่งแยกดินแดนต้องการประกาศตนเองให้เป็น “สาธารณรัฐประชาชน” ก่อนที่รัสเซียจะเข้ามาแทรกแซงในภายหลังจากการแอบให้การสนับสนุนอย่างเปิดเผย
มีการคาดการณ์ว่ารัสเซียจะเร่งรัดในการทำสงครามในพื้นที่ทางตะวันออกและตอนใต้ของยูเครน ด้วยยุทธวิธีที่รุนแรงและเด็ดขาดมากยิ่งขึ้นกว่าที่ตนเคยทำบริเวณรอบกรุงเคียฟและเมืองทางตอนเหนือของยูเครน เพื่อที่จะเข้ายึดพิ้นที่ทางตะวันออกและตอนใต้ของยูเครน ก่อนประกาศชัยชนะของตนในวันที่ 9 พ.ค. ซึ่งตรงกันกับวันครบรอบชัยชนะของอดีตสหภาพโซเวียตต่อนาซีเยอรมนีเมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง รายงานระบุว่า ปูตินวาดภาพดังกล่าวเอาไว้เพื่อที่จะสามารถปิดฉากสงครามยูเครนที่ตนเองพลาดพลั้งไปในช่วงแรก
รัสเซียพยายามเข้าไปแทรกแซงกิจการบริหารส่วนท้องถิ่นของแต่ละเมืองในยูเครนที่ตนเองยึดมาได้ อาทิ การแต่งตั้งนายกเทศมนตรีของมารีอูปอลคนใหม่ ซึ่งมีอุดมการณ์เข้าข้างรัสเซีย อย่างไรก็ดี นายกเทศมนตรีที่แท้จริงของมารีอูปอลยังคงเดินหน้าที่จะปกป้องเมืองของตนเองต่อไป ทั้งนี้ ชะตากรรมของมารีอูปอลกำลังเข้าใกล้ภาพที่กำลังเกิดขึ้นในเฮนิเชสค์มากขึ้นเรื่อยๆ
รัสเซียพยายามยึดพื้นที่ทางตอนใต้ของยูเครนให้ได้อย่างเด็ดขาด เพื่อปิดทางออกสู่ทะเลดำของยูเครน โดยเฉพาะการยึดมารีอูปอลซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญ และเป็นแหล่งขนส่งสินค้าทั้งเมล็ดพันธุ์ เหล็ก และเครื่องจักรหนัก ซึ่งเป็นแหล่งพึ่งพาหลักทางเศรษฐกิจของยูเครน นอกจากนี้ มารีอูปอลยังเป็นระเบียงเชื่อมไครเมียเข้ากับดอนบาสที่รัสเซียกำลังขยายอิทธิพลของตนเองมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะส่งผลให้รัสเซียประกาศว่าตนเองได้รับชัยชนะจากการรุกรานยูเครนในครั้งนี้ ทั้งๆ ที่ตนเองแพ้สงครามรอบกรุงเคียฟและพื้นที่ทางตอนเหนือของยูเครน จนทำให้เศรษฐกิจและกองกำลังทหารของตนได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ที่มา:
https://twitter.com/euromaidanpress/status/1516029171591430144